ฝ่ายชูชกเข้าไปสู่ชัฏป่า เอาฟันกัดเถาวัลย์ถือมา ผูกพระหัตถ์เบื้องขวาแห่งพระชาลีกุมาร รวมกันกับพระหัตถ์เบื้องซ้ายแห่งพระกัณหาชินากุมารี ถือปลายเถาวัลย์นั้นไว้ โบยตีพาไป. พระอัสสุชลของสองพระกุมารกุมารี ตกลงยังหลังพระบาทแห่งพระมหาสัตว์. ซึ่งมีพรรณดุจดอกปทุมบาน พระอัสสุชลของพระมหาสัตว์ก็ตกลงบน พระปฤษฏางค์แห่งสองพระกุมารกุมารี ซึ่งเช่นกับแผ่นทองคำ. ดูก่อนพราหมณ์ เราทั้งหลายไม่ค่อยมีอาพาธ สุขสำราญดี ยังอัตภาพให้เป็นไป ด้วยเสาะแสวงหาผลไม้สะดวกดี และมูลผลาหารก็มีมาก อนึ่ง เหลือบ ยุง และสัตว์เลื้อยคลานมีบ้างก็เล็กน้อย ความเบียดเบียนให้ลำบากในวนประเทศที่เกลื่อนไปด้วยเนื้อร้าย ก็ไม่ค่อยมีแก่เรา. พระเวสสันดรชาดก กัณฑ์ที่ 4 กัณฑ์วันประเวศน์ สวนป่าธรรมชาติ วัดเสนีวงศ์ อำเภอไทรน้อย ได้รับใบอนุญาตภายใต้ ให้เผยแพร่ โดยต้องระบุที่มาแต่ห้ามดัดแปลงและห้ามใช้เพื่อการค้า 3.zero Thailand. ดูก่อนพ่อชาลีพระลูกรัก พ่อจงมา จงเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นฉ่ำ จงทำตามคำของพ่อ ขอเจ้าทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อ ไม่หวั่นไหวต่อสาคร คือภพ.
- บทว่า ทีโฆตตโรฏโฐ ได้แก่ ประกอบด้วยริมฝีปากบนยาวยื่นปิดปาก.
- พระนางมัทรีก็เล่าถวาย โดยทำนองที่ทรงสุบินทีเดียว.
- แน่ะพ่อชาลี ถ้าพ่อใคร่เพื่อจะเป็นไท พ่อควรให้ทองคำพันลิ่มแก่พราหมณ์ชูชก จึงควรเป็นไท.
- บทว่า มูลผลากิณเณ ความว่า เกลื่อนไปด้วยมูลผลาผลต่างๆ ที่ให้ไว้เพื่อประโยชน์แก่เสบียงในมรรคา.
- ยังพระราชกุมารกุมารีให้ลุกขึ้น ปลอบโยนแล้วตรัสว่า แน่ะพ่อชาลี เจ้าไม่รู้ว่า พ่อวิตกถึงทานบารมีของพ่อดอกหรือ.
- บทว่า วินโต ได้แก่ มีคดในที่ ๓ แห่ง คือ เอว หลัง คอ.
บทว่า กุมาเร สุขวจฉิเต ความว่า ได้พระราชทานพระกุมารกุมารีที่เจริญอยู่ในความสุข คืออยู่ในความสุขบริจาคอย่างเป็นสุข. ข้าพระองค์จักทำตามรับสั่งไม่ได้ ข้าพระองค์จักนำทารกทั้งสองไปให้บำเรอนางอมิตตตาปนาพราหมณี. แม้นี้เป็นครั้งแรก ดูก่อนพราหมณ์ ท่านมาดีแล้วและมาไกลก็เหมือนใกล้ เชิญเข้าข้างใน ขอให้ท่านเจริญเถิด ชำระล้างเท้าของท่านเสีย.
พระชาลีและพระกัณหาชินาต่างเอาพระปฤษฎางค์ เข้ารับไม้แทนกันและกัน ในเมื่อถูกตี ลำดับนั้น ชูชกพลาดล้มลงในสถานที่ไม่เสมอแห่งหนึ่ง เถาวัลย์อันแข็งเคลื่อนหลุดจากพระหัตถ์อันอ่อนแห่งพระกุมารกุมารี พระกุมารกุมารีทรงกันแสงหนีไปหาพระมหาสัตว์. บทว่า ตสสา นหาเต ได้แก่ พระนางมัทรีสรงให้แล้ว. บทว่า อถ เน มาลธาริเน ได้แก่ ตกแต่งด้วยระเบียบดอกไม้อันวิจิตร นำระเบียบดอกไม้นั้นไปด้วย. ก็บทว่า อถ เน ท่านเขียนไว้ในคัมภีร์บาลี เนื้อความของบทนั้นท่านมิได้วิจารณ์ไว้. บทว่า มูลผลากิณเณ ความว่า เกลื่อนไปด้วยมูลผลาผลต่างๆ ที่ให้ไว้เพื่อประโยชน์แก่เสบียงในมรรคา.
เกร็ดอะไรที่ซ่อนในภาพฝาผนัง 13 กัณฑ์ของเวสสันดรชาดก ชาดกสำคัญที่สุดในชาดกทั้ง 10
ก็และครั้นกราบทูลฉะนี้แล้ว ได้ทรงทำความเคารพพระมหาสัตว์ เสด็จลุกไปต้อนรับพราหมณ์ชูชก ตรัสถามถึงการจะช่วยรับเครื่องบริขาร. พราหมณ์ชูชกเห็นพระชาลีราชกุมาร คิดว่า เด็กคนนี้จักเป็นพระชาลีราชกุมาร พระราชโอรสของพระเวสสันดร เราจักกล่าวผรุสวาจาแก่เธอเสียตั้งแต่ต้นทีเดียว คิดฉะนี้แล้ว จึงชี้นิ้วมือหมายให้รู้ว่า ถอยไป ถอยไป ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า นํ ในบาทคาถาว่า น เหตา ยาจโยคี นํ นี้ เป็นเพียงนิบาต มีคำอธิบายว่า ข้าแต่พระมหาราชเจ้า ธรรมดาสตรีเหล่านี้เป็นผู้ไม่ควรจะขอเลย คือย่อมเป็นผู้ไม่สมควรแก่การขอโดยแท้. บทว่า อนตรายสส การิยา ความว่า ย่อมกระทำอันตรายแก่บุญของทายก กระทำอันตรายแก่ลาภของยาจก. บทว่า วามโต ความว่า ถือเอาสิ่งทั้งปวงโดยเบื้องซ้าย ไม่ถือเอาโดยเบื้องขวา. สทธาย ทานํ ททโต ความว่า เมื่อพระองค์ทรงเชื่อกรรม และผลแห่งกรรมบริจาคทาน.
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๘ หน้าที่ ๔๔๗-๕๖๐. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วาริวโห ได้แก่ ห้วงน้ำในปัญจมหานที. ดูก่อนพราหมณ์ น้ำดื่มนี้เย็น นำมาแต่ซอกเขา ขอเชิญดื่มเถิด ถ้าปรารถนาจะดื่ม. เฒ่าก็พูดหว่านล้อมด้วยคำยอ ชักเอาแม่นำทั้งห้าเข้ามาล่อ อุปมาถวายเสียก่อน แล้วจึงหวนย้อนขอต่อเมื่อภายหลัง…
ราชดำเนิน
บทว่า ราชทณฑาย มํ ทชชา ความว่า พระเจ้ากรุงสญชัยพึงพระราชทานข้าพระองค์แก่อำมาตย์ทั้งหลาย เพื่อลงราชทัณฑ์ ด้วยข้อหาอย่างนี้ว่า พราหมณ์คนนี้เป็นโจรลักเด็ก จงลงราชทัณฑ์แก่มัน. บทว่า คาเรยหสส พรหมพนธุยา ความว่า และข้าพระองค์จักพึงถูกนางอมิตตตาปนาพราหมณีติเตียน. บทว่า อจจายิเกน ลุทเทน ได้แก่ ร้ายกาจเหลือเกิน คือเกินประมาณ. บทว่า โน โย ความว่า พระองค์ไม่ทรงทราบหรือว่า หม่อมฉันสองพี่น้องถูกพราหมณ์ผูกมัดไว้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พลงกปาโท ได้แก่ ตีนแป.
บทว่า วิกกีณาตุ หนาตุ วา ความว่า ข้าแต่เสด็จพ่อ ในเวลาที่เสด็จแม่เสด็จมา พราหมณ์ชูชกนี้จงขายหรือจงฆ่าหม่อมฉันทั้งสองก็ตาม หรือจงทำตามที่ปรารถนาเถิด. ถ้าท่านไม่ปรารถนาจะพบพระมเหสี ผู้มีวัตรอันงามของข้าไซร้ ท่านจงถวายชาลีกุมารและกัณหาชินากุมารีทั้งสองนี้แด่พระเจ้าสญชัยผู้เป็นพระอัยกา พระอัยกาทอดพระเนตรเห็นพระกุมารกุมารีทั้งสองนี้ผู้มีเสียงไพเราะเจรจาน่ารัก จักทรงปีติดีพระทัย พระราชทานทรัพย์แก่ท่านเป็นอันมาก. พระมหาราชเจ้าผู้ผดุงสีพีรัฐให้เจริญ สถิตอยู่ในธรรม ทอดพระเนตรเห็น พระกุมารกุมารีผู้มีเสียงไพเราะ เจรจาน่ารักนี้ ทรงได้ปีติโสมนัส จักพระราชทานทรัพย์แก่ท่านเป็นอันมาก. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อจเฉทนสส ได้แก่ ต่อข้อหาชิงกุมารกุมารีแล้วจับ.
ถอดคำประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ข้าแต่พระราชบุตร ข้าพระองค์กลัวต่อข้อหาชิงพระกุมารกุมารีแล้วจับข้าพระองค์ไว้ ขอพระองค์โปรดฟังข้าพระองค์ พระเจ้าสญชัยมหาราชพึงพระราชทานตัวข้าพระองค์แก่อำมาตย์ทั้งหลาย เพื่อลงราชทัณฑ์ หรือพึงให้ข้าพระองค์ขายพระโอรสพระธิดา หรือพึงประหารชีวิตเสีย ข้าพระองค์ขาดจากทรัพย์ และทาสทาสี นางอมิตตตาปนาพราหมณีจะพึงติเตียน. พราหมณ์ชูชกผู้แสวงหาทรัพย์ ผู้ร้ายกาจเกินเปรียบ ผูกหม่อมฉันทั้งสอง และตีหม่อมฉันทั้งสอง เหมือนตีฝูงโค พระองค์ไม่ทรงทราบหรือ น้องกัณหาจงอยู่ ณ ที่นี้ เพราะเธอยังไม่รู้จักทุกข์สักนิดเดียว. พระฉวีของพระชาลีพระกัณหาชินาแตกตรงที่ที่ถูกตีแล้วๆนั้นๆ พระโลหิตไหล.
จึงขึ้นสู่เนินภูผาแห่งหนึ่ง ในที่ไม่ไกลสระนั้นนอน ณ ที่มีความสำราญ. ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ทรงสดับเสียงเคาะพระทวารนั้น จึงตรัสทักถามว่า นั่นใคร. พระเวสสันดรตรัสว่า แน่ะนางผู้เจริญ เธอทำลายกติกาวัตรของเราทั้งสองเสียแล้ว เพราะเหตุไร จึงมาในเวลาอันไม่สมควร. พระนางมัทรีกราบทูลว่า ข้าแต่สมมติเทพ หม่อมฉันมิได้มาเฝ้าด้วยอำนาจกิเลส ก็แต่ว่าหม่อมฉันฝันร้าย.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า จิตโต ได้แก่ ทรงเกิดพระปีติโสมนัส. เมื่อจะทรงยังปฐพีให้บันลือลั่น ได้พระราชทานปิยบุตรทานแก่พราหมณ์ชูชก. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ดูก่อนพราหมณ์ผู้เจริญ พระสัพพัญญุตญาณย่อมเป็นที่รักยิ่งกว่า บุตรและบุตรีผู้เป็นที่รักกว่าร้อยเท่าพันเท่าแสนเท่า. “ศิลปะการประพันธ์ในวรรณคดีร้อยกรองของเจ้าพระยาพระคลัง (หน).” ศิลปะการประพันธ์ในวรรณคดีร้อยกรองของเจ้าพระยาพระคลัง (หน).
พระเวสสันดรตรัสว่า ถ้าอย่างนั้น เธอจงเล่าไป. พระนางมัทรีก็เล่าถวาย โดยทำนองที่ทรงสุบินทีเดียว. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุทกขสิ ความว่า ไปสำนักพระมหาสัตว์ หวาดหวั่นไหวแลดูอยู่. บทว่า ตวญจ โน ตาต ทสสสิ ความว่า ข้าแต่เสด็จพ่อ พระองค์ได้ประทานหม่อมฉันทั้งสองให้แก่พราหมณ์ ในเมื่อเสด็จแม่ยังมิได้กลับมาเลย ขอเสด็จพ่ออย่าได้ทรงกระทำอย่างนี้เลย โปรดยับยั้งไว้ก่อน พระเจ้าค่ะ จนกว่า หม่อมฉันทั้งสองจะได้เห็นเสด็จแม่ ต่อนั้น พระองค์จึงค่อยประทาน ในกาลที่หม่อมฉันทั้งสองได้เห็นเสด็จแม่แล้ว พระเจ้าค่ะ.
วันนี้เราทั้งสองจะละตุ๊กตาช้าง ตุ๊กตาม้า ตุ๊กตาวัว ซึ่งพระบิดาทรงปั้นประทาน ที่เราเคยเล่นในกาลก่อน. อนึ่ง พระชาลีราชกุมารได้กราบทูลบุรุษโทษ ๑๘ ประการว่า พราหมณ์กักขฬะหยาบช้านี้ประกอบด้วยบุรุษโทษ ๑๘ ประการ. ข้าแต่เสด็จพ่อ แม้เกล้ากระหม่อมก็เห็น ผู้นั้นปรากฏเหมือนพราหมณ์ที่เขาจะต้องการอะไรมาอยู่ เขาเป็นแขกของเราทั้งหลาย.