จึงมีรับสั่งให้พระยายมราช (ทองด้วง) คุมกองทัพอยู่จัดการเมืองเชียงใหม่ให้เรียบร้อย ส่วนพระองค์ได้เสด็จยกกองทัพหลวงลงมายังเมืองตาก เมื่อวันศุกร์ แรมสี่ค่ำ เดือนยี่ ฝ่ายพระยายมราช (ทองด้วง) ก็ให้พวกข้าราชการออกไปเที่ยวเกลี้ยกล่อมผู้คนพลเมืองที่หนีภัยไปหลบซ่อนตามป่าเขา ให้กลับคืนถิ่นที่อยู่ตามเดิม ครั้งนั้นเจ้าฟ้าเมืองน่านได้เข้ามาสวามิภักดิ์ เป็นขอบขัณฑสีมาอีกเมืองหนึ่ง จึงได้เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง เมืองน่าน และเมืองแพร่ กลับมาอยู่ในพระราชอาณาเขตไทย นับตั้งแต่ปีมะเมีย พ.ศ.2317 เป็นต้นมาตราบจนปัจจุบัน. ก็มีรับสั่งให้ พระยาอนุชิตราชา21 ยกกำลังพล 1,000 คนขึ้นไปทางริมน้ำฟากตะวันตก ให้หลวง ให้หลวงมหาเทพยกกำลังพล 1,000 นาย ขึ้นไปทางริมน้ำฟากตะวันออก เพื่อไปตีค่ายพม่าที่ปากแพรก พร้อมกับกองทัพของพระยายมราชแขก แล้วมีรับสั่งให้ พระยายมราช (ทองด้วง)ขึ้นไปตีค่ายพม่าที่เขาชะงุ่ม ในค่ำวันนั้นเวลาเที่ยงคืน พม่าในค่ายเขาชะงุ้ม ยกค่ายวิหลั่นออกมาปล้นค่ายพระมหาสงคราม22 หมายจะเข้ามาช่วยพวกของตนที่ค่ายบางแก้ว พม่าเอาไฟเผาค่ายพระมหาสงครามพระยายมราช (ทองด้วง) ไปช่วยทัน ชิงเอาค่ายกลับคืนมาได้ พม่ายายไปปล้นค่ายจมื่นศรีสรรักษ์ แต่ถูกฝ่ายไทยต่อสู้ จนต้องล่าถอยกลับเข้าค่าย. มีรับสั่งให้พระยานครราชสีมา20 ซึ่งยกกำลังเดินทางมาถึง ให้ไปตั้งค่ายประชิดพม่าที่เขาชะงุ้ม และมีการเจรจาอีกครั้งระหว่างยุงอคงหวุ่น กับอุตมสิงหจอจัว แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ จากการประมาณสถานการณ์ก็แลเห็นว่า พม่าจะยังไม่ยกเข้ามาในปีนี้ ด้วยจวนจะเข้าฤดูฝน ยังไม่จำเป็นต้องเกณฑ์กองทัพหัวเมือง จึงเป็นแต่ให้มีตราเกณฑ์ข้าวสาร เมืองนครศรีธรรมราช 600 เกวียน เมืองไชยา เมืองพัทลุง และเมืองจันทบุรี เป็นข้าวสารเมืองละ four hundred เกวียน ให้ส่งมาขึ้นฉางไว้สำรองราชการสงคราม ถ้าหาข้าวได้ไม่ครบตามจำนวนเกณฑ์ ก็ให้ส่งเป็นเงินแทน โดยคิดราคาข้าวสารเกวียนละ 40 บาท ข้าวเปลือกเกวียนละ 20 บาท. ครั้งนั้นมีพระยามอญเป็นหัวหน้าสี่คน คือพระยาเจ่ง เจ้าเมืองเตริน เป็นหัวหน้ามาทำทางอยู่ในป่าเมืองเมาะตะมะ พม่าได้ทำทารุณกรรมพวกมอญด้วยประการต่าง ๆ พวกมอญโกรธแค้นจึงคบคิดกัน จับแพกิจากับทหารพม่าฆ่าเสีย แล้วรวมกำลังยกกลับไป มีพวกมอญมาเข้าด้วยเป็นอันมาก เมื่อเห็นเป็นโอกาส จึงยกไปตีเมืองเมาะตะมะได้ แล้วขยายผลยกขึ้นไปตีเมืองสะโตง และเมืองหงสาวดี ได้ทั้งสองเมือง ขยายผลต่อไปเข้าตีเมืองย่างกุ้ง รบพุ่งติดพันกับพม่าอยู่.
1 แห่งราชอาณาจักรอังวะ ทราบข่าวมีคนไทยตั้งตนเป็นใหญ่อีกครั้ง (โดยเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ที่มีใจฝักใฝ่พม่า) จึงได้มีพระบรมราชโองการให้ “แมงกี้มารหญ้า” เจ้าเมืองทวาย ยกทัพมาปราบปรามผู้ที่กำเริบตั้งตนเป็นใหญ่ให้ราบคาบ. ในทางกลับกัน ธีระพงษ์กล่าวว่า พระอาจารย์ธรรมโชติแห่งหมู่บ้านบางระจัน ที่ได้รับนิมนต์มาปลุกขวัญชาวบ้านบางระจัน ที่ได้รับนิมนต์มาปลุกขวัญชาวบ้าน เพื่อต่อต้าน “พม่า” โดยการแจกตระกรุด ทำพิะีไสยศาสตร์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวบ้านบางระจันไปทำสงคราม ซึ่งในทางธรรมวินัย ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการละเมิดต่อชีวิต (ปาณาติบาต) แล้ว แต่ประวัติศาสตร์ชาตินิยม กลับเชิดชูให้พระอาจารย์ธรรมโชติเป็นพระเอก เป็นวีระภิกษุไป. การสร้างกรุงธนบุรีเป็นราชธานีแทนกรุงศรีอยุธยาเท่ากับเป็นการสร้างชุมชนใหม่ของชาวไทย การสูญเสียอิสรภาพของไทยให้กองทัพพม่าที่เข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาแตกยับเยินใน พ.ศ. เสด็จไปทอดพระเนตรค่ายทหารไทย ที่ตั้งโอบทหารพม่าที่บางแก้ว เมื่อทรงพิจารณาภูมิประเทศแล้ว จึงมีรับสั่งให้ไปตั้งค่ายล้อมพม่าเพิ่มเติมอีกจนรอบ แล้วให้เจ้าพระยาอินทรอภัย14 ไปตั้งรักษาหนองน้ำที่เขาช่องพราน อันเป็นที่ข้าศึกอาศัยเลี้ยงช้างม้าพาหนะ และเป็นเส้นทางเดินลำเลียงเสบียงอาหารของข้าศึกแห่งหนึ่ง ให้พระยารามัญวงศ์ คุมกองมอญที่เข้ามาใหม่ ไปรักษาหนองน้ำที่เขาชะงุ้ม ซึ่งอยู่ในเส้นทางลำเลียงของข้าศึก ด้านเหนือขึ้นไป ระยะทางประมาณ 100 เส้น. ทรงทราบก็ทรงพิโรธ และได้ทรงประหารชีวิตพระเทพโยธาด้วยพระหัตถ์13 พวกกองทัพทั้งปวงก็เกรงพระราชอาญา พากันรีบยกกำลังออกไปเมืองราชบุรีตามรับสั่ง.
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ยกกองทัพติดตามลงมา พวกมอญได้อพยพครอบครัวหนีเข้ามาอยู่ในขอบขัณฑสีมาเมืองไทยเป็นอันมาก พระองค์จึงดำรัสสั่งลงมาทางกรุงธนบุรี ให้พระยายมราชแขก09 คุมกองทัพออกไปตั้งกักด่านที่ตำบลท่าดินแดง แขวงเมืองท่าขนุน ในลำน้ำไทรโยค คอยรับครัวมอญที่จะเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ ให้พระยากำแหงวิชิต คุมกำลัง 2,000 นาย ตั้งอยู่ที่บ้านระแหง คอยรับครัวมอญที่จะเข้ามาทางด่านเมืองตาก แล้วพระองค์เสด็จยกทัพหลวง ออกจากบ้านระแหง เมื่อวันศุกร์แรมห้าค่ำ เดือนอ้าย ปีมะเมีย พ.ศ.2317 ตามกองทัพเจ้าพระยาสุรสีห์และพระยายมราชขึ้นไปยังเมืองเชียงใหม่. กับการปราบ “พวกสงฆ์อลัชชี” ที่เมืองสวางคบุรี โดย ธีระวัฒน์ แสนคำ ใน “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับ มีนาคม 2559) “เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตก พระพากุลเถระได้ซ่องสุมผู้คน ตั้งตัวขึ้นเป็นเจ้าอีกตำบลหนึ่ง โดยมิได้สึกเป็นคฤหัสถ์ไม่ คงอยู่ในเพศสมณะ แต่นุ่งห่มผ้าแดง คนทั้งปวงเรียกว่า “้เจ้าพระฝาง” เป็นที่เกรงกลัวของบรรดาเจ้าเมืองกรมการหัวเมืองฝ่ายเหนือ ตั้งแต่เหนือเมืองพิษณุโลกขึ้นไป”. หลักฐานจากพงศาวดารอ้างว่า กองทัพเจ้าพระฝางนอกจากจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของศูนย์อำนาจรัฐกรุงธนบุรีแล้ว ยังถูกเสนอในภาพของกลุ่มพระภิกษุที่ไม่ปฏิบัติอยู่ในพระธรรมวินัย (“ประพฤติพาลทุจริตทุศีลกรรมลามกบริโภคสุรา” พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา) การกระทำของพระภิกษุในชุมนุมเจ้าพระฝาง จึงเป็นภัยต่อทั้งฝ่ายอาณาจักรและฝ่ายพุทธจักร. เจ้าตากทรงทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทรงเห็นว่าพม่าจะต้องปราบปรามมอญอยู่นาน เป็นโอกาสที่ไทยจะชิงตีเมืองเชียงใหม่ ตัดกำลังพม่าเสียทางหนึ่งก่อน จึงมีรับสั่งให้เกณฑ์ให้เกณฑ์กำลังหัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งมีจำนวน 20,000 นาย ไปรวมพลอยู่ที่บ้านระแหงแขวงเมืองตาก แล้วเกณฑ์คนในกรุงธนบุรี และหัวเมืองชั้นในเป็นกองทัพหลวงจำนวน 15,000 นาย เจ้าตากเสด็จโดยกระบวนเรือ ออกจากพระนคร เมื่อวันอังคาร แรม eleven ค่ำ เดือน 12 ปี มะเมีย พ.ศ.2317 ขึ้นไปทางเมืองกำแพงเพชร แล้วให้ประชุมทัพที่บ้านระแหง ตรงที่ตั้งเมืองตากปัจจุบัน. ฝ่ายไทย พระองค์เจ้าจุ้ยลูกเธอ ตั้งอยู่ที่เมืองราชบุรี เมื่อทราบว่าพม่าตั้งค่ายอยู่ที่บางแก้ว ด้วยกำลังพล 3,000 คน จึงยกกำลังไปตั้งที่ตำบลโคกกระต่าย ในทุ่งธรรมเสน ห่างจากค่ายพม่าประมาณ eighty เส้น แล้วให้หลวงมหาเทพ คุมกองหน้า ไปตั้งค่ายโอบพม่าทางด้านตะวันตก และให้เจ้ารามลักษณ์หลานเธอ (บุญมี) นำกำลังยกไปตั้งค่าย โอบทางด้านตะวันออก แล้วบอกความเข้ามายังกรุงธนบุรี.
พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม), วันที่สืบค้น 26 กรกฎาคม 2557. Th.wikipedia.org/wiki/เจ้าพระยาจักรี_(หมุด), วันที่สืบค้น 25 กรกฎาคม 2557. 2 ได้มีพระภิกษุลังกา ชื่อ พระสาสนวงศ์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและต้นโพธิ์ลังกามาถวายใน พ.ศ. เมื่อ พ.ศ.2314 และราชการสงครามอื่น ๆ อีกมาก., ที่มา th.wikipeida.org/wiki/พระยายมราช_(หมัด), วันที่สืบค้น sixteen ต.ค.2559. เสด็จสวรรคต กองทัพพม่าส่วนที่ตามไปไม่ทันจึงถูกกองทัพทหารจับ และริบยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ได้เป็นอันมาก. ได้มีรับสั่งให้มีตราตอบไปว่า ให้ทำลายหนองน้ำและบ่อน้ำ ตามเส้นทางที่จะขึ้นมาเมืองเพชรบุรีให้หมด แห่งใดทำลายไม่ได้ ก็ให้เอาของโสโครกและของที่มีพิษ ใส่ในแหล่งน้ำดังกล่าว อย่าให้ข้าศึกอาศัยใช้ได้.
ประวัติศาสตร์ไทย
3- การประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศา… ปัญหาความอดอยากของราษฎร เนื่องจากมีศึกสงครามมาตั้งแต่ พ.ศ. Th.wikipedia.org/wiki/กรมหมื่นเทพพิพิธ, วันที่สืบค้น 10 กรกฎาคม 2557. วิมล จิโรจพันธุ์ ; ประชิด สกุณะพัฒน์ และ อุดม เชยวงศ์.
เรียกตามชื่อเมืองโยนกเชียงแสนซึ่งปรากฏทรากเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงท้องที่อำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงรายในปัจจุบัน เมืองดังกล่าวนี้ เคยเป็นราชธานีและเมืองสำคัญของไทยในสมัยแรกที่ตั้งมั่นขึ้นในสุวรรณภูมิตามความเป็นจริงแล้วคนไทยที่มาตั้งมั่นอยู่ในแถบนี้ได้โยกย้ายบ้านเมืองและสร้างราชธานีหลายหนเพราะเหตุที่มีอุทกภัยน้ำในแม่น้ำโขงไหลบ่าขึ้นมาท่วมบ้านเมืองเสียหายบ่อยๆคำว่าโยนกเชียงแสนที่กล่าวในที่นี้จึงกล่าวเพื่อความสะดวกในการกำหนดเรียกชื่อศิลปกรรมแบบที่สร้างในระยะที่โยนก( เมืองสมัยก่อนเชียงรายราวพ.ศ. ทรงทราบข่าวว่าพม่ายกพลตามพวกมอญที่หนีเข้ามาในเขตไทย จึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพมุ่งตรงไปยังราชบุรี โดยทรงบัญชาการทัพด้วยพระองค์เอง ทรงตั้งค่ายล้อมค่ายพม่าและลอบตีตัดทางลำเลียงเสบียงอาหาร โดยได้กำลังสนับสนุนจากพระยายมราช ในที่สุดพม่าจึงต้องยอมแพ้ ชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้ผู้คนที่หลบซ่อนตามที่ต่าง ๆ เข้ามาสวามิภักดิ์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากหมดความกลัวเกรงพม่า นับเป็นสงครามแบบจิตวิทยาโดยแท้. เมื่อต้นปีมะเส็ง พ.ศ.2316 พวกเมืองเวียงจันทน์ เกิดวิวาทกันเอง พวกหนึ่งจึงไปขอกำลังจากโปสุพลาที่เชียงใหม่ไปช่วย โปสุพลายกกำลังไประงับเหตุเสร็จสิ้นแล้ว ได้ค้างฤดูฝนอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ แล้วบังคับให้เจ้าบุญสารส่งบุตรธิดา กับเสนาบดีผู้ใหญ่ไปเป็นตัวจำนำอยู่ที่เมืองอังวะ เมื่อสิ้นฤดูฝน โปสุพลา ก็ยกกองทัพจากเมืองเวียงจันทน์ เลยถือโอกาสมาตีเมืองพิชัย เพื่อทดสอบกำลังของฝ่ายไทย หรือมิฉะนั้นก็เป็นการแก้มือที่แพ้ไทยไปครั้งก่อน. จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุรสีห์คุมกองทัพเมืองเหนือขึ้นไปสมทบกองกำลังพระยากาวิละ เจ้าเมืองนครลำปาง ยกไปตีเมืองเชียงใหม่คืนสำเร็จ และทรงให้นครเชียงใหม่เป็นเมืองร้างถึง 15 ปี จนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์จึงได้ฟื้นฟูใหม่. ส่วนหัวเมืองเล็กน้อยทั้งปวง ก็โปรดให้ขุนนางผู้น้อยไปครองทุก ๆ เมือง สำหรับเจ้าพระยาจักรีแขก (หมุด) หรือเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์9 นั้น มิได้ทแกล้วกล้าในการสงคราม โปรดตั้งให้พระยาอภัยรณฤทธิ์ บุตรชาย เป็นที่พระยายมราช (หมัด) บัญชาการกระทรวงมหาดไทย ว่าราชการที่สมุหนายกแทน. ตั้งพระทัยที่จะจับพม่าให้ได้ทั้งกองทัพที่มาตั้งที่บางแก้ว ด้วยเหตุที่พม่าประกาศหมิ่นไทยประการหนึ่ง และทรงประสงค์จะปลุกใจคนไทย ให้กลับกล้าหาญดังแต่ก่อน หายครั้นคร้ามพม่า จึงทรงทนลำบาก ใช้เวลาล้อมพม่าอยู่นาน โดยไม่รบแตกหัก ซึ่งถ้าจะทำก็ทำได้โดยใช้เวลาน้อยกว่านี้ แต่ผลที่ได้จะต่างกัน การจับพม่าเป็นเชลยได้เป็นจำนวนมากเช่นนี้ ให้ผลทางด้านจิตวิทยามากกว่า.
ประวัติบุคคลสําคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา สร้างคำถาม
กลับมาถึงพิชัยได้เพลาหนึ่งแล้ว ก็เดินทางกลับกรุงธนบุรี. มีใบบอกขึ้นไปว่าเมืองตานีเข้ามาถวายดอกไม้เงิน ดอกไม้ทอง และพวกวิลาศวิลันดาที่เมืองจาร์กาต้าได้ส่งปืนใหญ่มาถวาย (ขาย) หนึ่งร้อยกระบอก. ให้ปะกันหวุ่น ซึ่งได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองเมาะตะมะ ตำแหน่งเทศาภิบาลมณฑลหัวเมืองมอญเป็นแม่ทัพ.
ตลอดรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงทำสงครามกับพม่ารวมเก้าครั้ง ซึ่งทรงได้รับชัยชนะทุกครั้ง. นับเป็นกฤษดาภินิหารอันบดบังมิได้ของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล ทำให้ไทยเป็นชาติอยู่ได้จวบจนปัจจุบัน สงครามกับพม่าทั้งเก้าครั้งมีดังนี้. ยิงปืนมาอยู่ที่พระชงฆ์ (ส่วนหน้าของขา ใต้เข่าลงมา หน้าแข้งก็ว่า ) (…ต้องพระชงฆ์เบื้องซ้าย เลียบตัดผิวพระมังสะไปจึงให้ลาดทัพกลับยังกรุงธนบุรี.. ได้เสด็จโดยขบวนพยุหยาตรา เข้าเหยียบเมืองเชียงใหม่ในวันรุ่งขึ้น ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น 14 ค่ำ เดือนยี่ ทรงตั้งพระยาจ่าบ้านเป็นพระยาวิเชียรปราการ เจ้าเมืองเชียงใหม่ ให้พระยากาวิละเป็นพระยานครลำปาง เจ้าเมืองลำปาง ให้พระยาลำพูนเป็นพระยาวัยวงศา ครองเมืองลำพูนตามเดิม. ทรงแต่งตั้งให้ พระยาจ่าบ้าน เป็น พระยาวิเชียรปราการ ปกครองนครเชียงใหม่ พระยากาวิละ ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์กาวิละ ปกครองนครลำปาง และพระยาลำพูน เป็น พระยาวัยวงศา ปกครองเมืองลำพูน การศึกครั้งนี้จึงได้ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และ น่าน กลับมาเป็นของไทย. แต่เป็นเพราะชุมนุมของเจ้าพระฝางเป็นเพียงการรวมกลุ่มของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากอำนาจรัฐ โดยมีพระสงฆ์แสดงบทบาทเป็นผู้นำชุมชนเท่านั้น และการที่เจ้าพระฝางยอมแพ้อย่างง่ายดาย อาจเป็นไปเพื่อเลี่ยงความรุนแรง จนเสียเลือดเสียเนื้ออีกด้วย.
ประวัติศาสตร์ไทย
ลัทธิศาสนาสมัยต้นที่ไทยเข้ามาครอบครองแคว้นนี้ ได้แก่พระพุทธศาสนามหายานนิกายต่าง ๆ ระยะ พ.ศ. สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กรมขุนกษัตรานุชิต. ซึ่งเคยเป็นเมืองร้างถึง 15 ปี มีราษฎรอยู่ทำมาหากินตามปกติ ฟื้นฟูมาตามลำดับจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์. 1 จึงมีพระราชดำริให้ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นที่วัดมหาธาตุ เมื่อ พ.ศ. ข่าวสดประชาชาติธุรกิจสุดสัปดาห์ศิลปวัฒนธรรมเทคโนโลยีชาวบ้านเส้นทางเศรษฐีสำนักพิมพ์มติชนศูนย์ข้อมูลมติชนมติชนอคาเดมีKhaosod EnglishMatichon Investor Relationร่วมงานกับเรา. โปมะยุง่วน จึงรวบรวมกำลัง ยกลงมาตีเมืองเชียงใหม่ เมื่อเดือน 10 ปีมะแม พ.ศ.2318.
จากที่ได้กล่าวมาแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงเป็นนักการค้าที่ประสบความสำเร็จยิ่งในธุรกิจการค้า ได้มีความเจริญมั่งคั่ง ไม่ใช่เฉพาะพระองค์ แต่ยังนำผลประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง พระองค์ทรงเป็นพ่อค้าที่ลงทุนให้กับประชาชนของพระองค์ ลงทุนให้กับบ้านเมืองประเทศชาติ โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ไม่ทรงคำนึงถึงส่วนพระองค์เลยนอกจากประชาชนและแผ่นดินไทย ซึ่งคนไทยทุกคนควรร่วมใจกันเทิดทูนพระเกียรติคุณของพระองค์ว่า ทรงเป็น พระบิดาแห่งการค้าไทย. เสด็จยกทัพหลวงกลับลงมาจากเชียงใหม่ถึงเมืองตาก เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้นสองค่ำ เดือนสาม ประจวบเหมาะกับกองทัพพม่าที่ยกตามครัวมอญมาทางด่านแม่ละเมา ใกล้จะยกมาถึงเมืองตาก จึงมีรับสั่งให้หลวงมหาเทพ10 กับจมื่นไวยวรนาถ11 คุมกำลัง 2,000 นาย ยกไปตีพม่า และได้ปะทะกันในวันนั้น พอตกค่ำฝ่ายพม่าก็ถอยหนีไป จึงมีรับสั่งให้ยกกำลังสวนทางที่พม่าถอยหนีไปนั้น ให้พระยากำแหงวิชิต รีบยกกำลังออกไปก้าวสกัดตัดหลังกองทัพพม่า เพื่อตัดรอนกำลังส่วนนี้ให้หมดสภาพไป. จึงมีรับสั่งให้รีบเกณฑ์กองทัพในกรุงธนบุรี ให้พระองค์เจ้าจุ้ยลูกเธอ08 กับพระยาธิเบศร์บดีจางวางมหาดเล็ก นำกำลังพล 3,000 นาย ออกไปรักษาเมืองราชบุรี แล้วให้เจ้ารามลักษณ์หลานเธอ นำกำลังพล 1,000 นายยกขึ้นไปหนุน และให้มีตราขึ้นไปยังกองทัพหัวเมืองเหนือ ให้ยกลงมาด้วย แล้วมีรับสั่งให้เรือเร็ว ขึ้นไปเร่งกองทัพกรุงธนบุรีที่กำลังเดินทางกลับจากเมืองเหนือ ให้รีบเดินทางกลับมาโดยเร็ว เนื่องจากยังไม่รู้ว่า กองทัพพม่าจะยกกำลังเข้ามามากน้อยเพียงใด. โปสุพลา โปมะยุง่วน เห็นฝ่ายไทยตั้งค่ายล้อมเมืองดังกล่าว จึงคุมกำลังออกมาตั้งค่ายประชิด แล้วยกกำลังเข้าปล้นค่ายไทยหลายครั้ง แต่ถูกฝ่ายไทยตีโต้ถอยกลับเข้าเมืองไปทุกครั้ง สุดท้ายจึงได้แต่รักษาเมืองมั่นไว้ ขณะนั้นพวกชาวเมืองเชียงใหม่ ที่หลบหนีพม่าไปซุ่มอยู่ในป่าเขา เห็นฝ่ายไทยไปตั้งค่ายล้อมพม่าอยู่ ก็พากันออกมาเข้ากับกองทัพไทยเป็นอันมาก พวกที่อยู่ในเมือง ก็พากันหลบหนีเล็ดลอดออกมาเข้ากับฝ่ายไทยอยู่ไม่ขาดสาย จนได้ครอบครัวชาวเชียงใหม่ ที่มาเข้ากับกองทัพไทยจำนวนกว่า 5,000 คน.
เมื่อวันเสาร์ เดือนแปด แรม 14 ค่ำ พร้อมรี้พลสกลไกร 12,000 นาย พระยายมราช (พระยาอนุชิตราชา ได้เลื่อนแทนพระยายมราชท่านเดิมซึ่งถึงแก่อสัญกรรม) คุมกองทัพที่สอง จำนวน 5,000 นาย เดินทัพทางตะวันออกของลำน้ำแควใหญ่ และพระยาพิชัยราชา คุมกองทัพที่สาม จำนวน 5,000 นาย เดินทัพทางตะวันตกของลำน้ำ. เสด็จทรงมาไปที่ค่ายหลวงมหาเทพ ซึ่งตั้งล้อมพม่าอยู่ทางด้านตะวันตก มีรับสั่งให้จักกายเทวะมอญเข้าไปร้องบอกแก่พม่าในค่าย ให้ออกมายอมอ่อนน้อมแต่โดยดี งุยอคงหวุ่นจึงขอเจรจากับตละเกล็บหัวหน้ามอญที่มาอยู่กับฝ่ายไทย และได้เป็น(ว่า)ที่พระยาราม แต่ยังไม่เป็นผล. ปราบปรามพวกมอญเสร็จสิ้น เป็นแต่ยังรอกองทัพพม่าที่เข้ามาตามครัวมอญอยู่เมืองเมาะตะมะ จึงได้ขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้ามังระที่เมืองร่างกุ้ง พระเจ้ามังระเห็นว่ามีกองทัพใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมาะตะมะแล้ว จึงมอบการที่จะตีเมืองไทย ให้อะแซหวุ่นกี้คิดอ่านดำเนินการต่อไป. ธีระพงษ์มองว่า เจ้าพระฝางได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ในฐานะพระนักพัฒนาที่ไม่ละเลยต่อความทุกข์ยากของประชาชนในขณะนั้น แต่ถูกทำให้เป็นผู้ร้ายในบริบทของประวัติศาสตร์ชาตินิยม เป็นกบฎต่อบ้านเมืองและเป็นอลัชชีในฐานะสงฆ์ที่ละเมิดวินัย. (หลวงนายศักดิ์ครั้งกรุงเก่า) เป็นแม่ทัพใหญ่ พระยายมราช พระยาศรีพิพัฒน์ พระยาเพชรบุรี เป็นนายกอง นำกองทัพ จำนวน 5,000 นาย ยกไปในเดือน 5 ปีฉลู พ.ศ.2312. ก็มีรับสั่งให้กองทัพไทยยกติดตามไปจนสุดพระราชอาณาเขต แล้วก็ให้กองทัพกลับคืนพระนคร พระราชทานบำเหน็จรางวัลแก่แม่ทัพนายกองผู้ใหญ่ผู้น้อย ตามสมควรแก่ความชอบ ที่มีชัยชนะพม่าครั้งนี้โดยทั่วกัน.
เป็นทัพหลวง ซึ่งมีเจ้าหมื่น (หรือจมื่น)ไวยวรนาถ (พระยาพิชัยดาบหัก) เป็นนายทหารองครักษ์คู่พระทัยตามเสด็จไปรบด้วย โดยยกทัพทางชลมารคไปทางสมุทรสงคราม เข้าโจมตีข้าศึก แมงกี้มารหญ้าเห็นสู้ไม่ได้ก็ยกทัพถอยไปทางเมืองทวายทางด้านเจ้าขว้าว (บ้างก็เรียกด่านเจ้าเขว้า) ทำให้กองทัพไทยสามารถยึดเรือรบ เครื่องศัตราวุธ และเสบียงอาหารเป็นจำนวนมาก. คอยอยู่ที่เมืองเมาะตะมะ เห็นกองทัพงุยอคงหวุ่นหายไปนาน จึงให้ตะแคงมรหน่อง ยกกำลัง three,000 คน ตามเข้ามา เมื่อมาถึงปากแพรก ได้ทราบว่างุยอคงหวุ่นถูกฝ่ายไทยล้อมไว้ที่บางแก้ว จึงมอบให้มองจายิดยกกำลัง 2,000 นาย ลงมาช่วยงุยอคงหวุ่นที่บางแก้ว ส่วนตนเองยกกำลังลงมาตีค่าย พระยายมราชแขกที่หนองขาว ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายไทยได้ จึงถอยกำลังไปตั้งอยู่ที่ปากแพรก. จึงดำรัสสั่งเจ้ารามลักษณ์หลานเธอ07 แบ่งพลจากกองทัพหลวง 1,800 นาย ยกลงมาทางบ้านจอมทอง เพื่อรับมือกับข้าศึกที่ยกเข้ามาทางด้านนี้ แต่ต่อมาเมื่อทรงทราบว่ากำลังพม่ามีปฏิบัติการไม่เข้มแข็ง จึงทรงให้ยกเลิกภารกิจนี้ แล้วดำรัสให้มีตราถึงพระยากำแหงวิชิต12ให้แบ่งกำลังที่เมืองตากออกไปตั้งรักษาด่านบ้านนาเกาะเหล็ก คอยรับครัวมอญที่จะตามเข้ามาทีหลังต่อไป. มีอาณาเขตเมืองพิชัย – เมืองนครสวรรค์ – (สรุป สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเริ่มยกทัพไปตีชุมนุมพิษณุโลกเป็นก๊กแรก แต่กระสุนปืนต้องถูกพระองค์ จึงต้องยกทัพกลับและรักษาพระองค์ยังพระนคร ชุมนุมพิษณุโลกนี้ภายหลังอ่อนแอลง จนกระทั่งถูกชุมนุมเจ้าพระฝางผนวกไป ).