เมื่อใดที่ร่างกายมีไขมันมากเกินไป ไขมันจะไปเกาะตามผนังด้านในของหลอดเลือด ถ้าไขมันสูงมากจะมีผลทำให้หลอดเลือดตีบ เลือดไหลเวียนไม่สะดวก โดยเฉพาะบริเวณขาทำให้เดินแล้วปวดน่อง และอาจส่งผลทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ เกิดโรคหัวใจขาดเลือดหรืออาจทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เกิดเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยเฉพาะในผู้ที่สูบบุหรี่ ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ อัมพาต อัมพฤกษ์ มากขึ้น ระดับไขมันในร่างกายที่ปกติ คือ คอเลสเตอรอล ต่ำกว่า 200 มก./ดล. ไตรกลีเซอร์ไรด์ ต่ำกว่า 200 มก./ดล. และเอชดีแอล คอเลสเตอรอล สูงกว่า 35 มก./ดล. ภาวะ alcoholic ketoacidosis มักเกิดร่วมกับภาวะ lactic acidosis และระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ. ภาวะ lactic acidosis เกิดจากภาวะการสูญเสียน้ำ เนื่องจากการอาเจียนและกินลดลง.
นอกจากนี้ ethanol oxidation จะเพิ่มอัตราส่วน NAD/NAD+ ทำให้ lactic acidosis มากขึ้น และทำให้ acetoacetate กลายเป็น ß-hydroxyl butyrate บางส่วนของแอลกอฮอล์ยังถูกย่อยสลายเป็น acetic acid. อาจตรวจพบความผิดปกติของสมดุลกรดด่างอื่นๆ คือ ภาวะ metabolic alkalosis (เป็นผลจากการอาเจียน ทำให้ผู้ป่วยมีค่า arterial pH ค่อนข้างปกติ อาจพบแต่การเพิ่มขึ้นของ anion gap อย่างเดียว ภาวะ respiratory alkalosis (เนื่องจากผู้ป่วยมักมีโรคตับเรื้อรัง) ภาวะ normal anion hole metabolic acidosis (มีการสูญเสีย ketoacid anions ทางปัสสาวะ). จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลการศึกษาบทบาทของแอลกอฮอล์ต่อการดำเนินโรคไต จะมีทั้งข้อมูลทั้งด้านดีและด้านเสีย คงจำเป็นจะต้องรอการศึกษาที่มากขึ้นก่อนที่จะสรุปว่าการดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อการดำเนินโรคไตเป็นอย่างไร. 10 ความเสี่ยงสาว ๆ ดื่ม เหล้า-เบียร์ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำหน้าแก่ ! อย่างไรก็ตามไม่พบว่าแอลกอฮอล์จะมีผลต่ออัตราการกรองของไต หรือเลือดที่เข้าไปเลี้ยงไต 6 แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลของแอลกอฮอล์ต่อการเกิดพยาธิสภาพที่ไต. พระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา forty three ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ ในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น…
อาการซึ่งเป็นผลจากการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
โทษของสุรา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลให้เสี่… 2) มีลักษณะ regular anion hole metabolic acidosis เนื่องจากมีการขับ ketoacid anions ในปัสสาวะทำให้การแก้ปัญหา acidosis ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น. ติดโควิด19 เข้าสอบ TCAS65 เริ่มลงทะเบียน 7 มี.ค.
ในปัจจุบันทั่วโลกมีการบริโภคสุราอย่างกว้างขวาง เฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศเดียวประมาณการว่ามีผู้ใหญ่ที่บริโภคสุราสูงถึงร้อยละ 50 และมีประชากรประมาณ 15 ถึง 20 ล้านคนที่ป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง . นอกจากนี้ร้อยละ ของผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคสุรา พบว่าแอลกอฮอล์สามารถซึมผ่านเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ได้เป็นอย่างดีและส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะการทำงานของตับ. แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคตับแข็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีการดำเนินโรคที่รุนแรงกว่าโรคมะเร็งบางชนิดเสียอีก.1 ในด้านผลของการดื่มแอลกอฮอล์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด มีข้อมูลว่าสามารถช่วยลดอัตราการตายได้ โดยเฉพาะการดื่มไวน์ แต่ถ้าดื่มในปริมาณที่มากกว่า 50 กรัม/วัน (5-6 แก้วต่อวัน) จะมีผลในทางตรงกันข้าม.2 ในด้านบทบาทของแอลกอฮอล์ต่อการทำงานและการดำเนินโรคทางไต อาจจะไม่ได้เด่นชัดเท่ากับผลกระทบต่อการทำงานของตับหรือในอวัยวะอื่นๆ โดย Bright เป็นผู้ที่ตั้งข้อสังเกตนี้ตั้งแต่เมื่อ one hundred seventy ปีที่แล้ว3 หลังจากนั้นข้อมูลการศึกษาบทบาทของแอลกอฮอล์ต่อการทำงานและการดำเนินโรคทางไตเริ่มมีเพิ่มมากขึ้นทั้งในมนุษย์และในสัตว์ทดลอง ดังจะได้กล่าวในบทความนี้. พบอุบัติการณ์สูงถึงร้อยละ ของผู้ที่ติดสุราเรื้อรังที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล.15 แอลกอฮอล์มีผลลดระดับฟอสเฟตในเลือดโดยการขับออกทางปัสสาวะ เนื่องจากขาดวิตามิน D และมีภาวะ secondary hyperparathyroidism พบว่าเมื่อหยุดดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา four สัปดาห์ กลไกการดูดซึมฟอสเฟตกลับในไตจะกลับมาทำงานเป็นปกติ.16 นอกจากนั้นยังมีการลดการดูดซึมฟอสเฟตที่ลำไส้เนื่องจากมีอาการอาเจียน ท้องเสีย และกินอาหารได้น้อย ผลเสียที่เกิดขึ้นเมื่อระดับฟอสเฟตในเลือดต่ำได้สรุปไว้ในตารางที่ 2. ในปัจจุบันยังไม่ทราบกลไกที่แน่ชัดในเรื่องบทบาทของแอลกอฮอล์ต่อการดำเนินโรคไต แต่กลไกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดกลไกหนึ่ง คือการที่แอลกอฮอล์ไปมีผลเพิ่มระดับความดันโลหิต โดยผลจะเห็นได้ชัดในผู้ชายและผู้สูงอายุ8 ในผู้ป่วยที่มีประวัติดื่มสุราในปริมาณมากแล้วเกิดภาวะไตวายฉับพลัน แพทย์ควรสงสัยภาวะ rhabdomyolysis เอาไว้ด้วย.