ในจารึกวัดบูรพาราม กล่าวถึงอำนาจของพระมหาธรรมราชาธิราช ปกครอง ปกเลือง ปกเขม เขมรัฐ ปกกาว. ในอดีตการกำหนดอาณาเขตเป็นไปตามชาติ เช่น ปกเลือง อาณาเขตของชาวเลือง ปกซ่าว เป็นอาณาจักรเขตของชวา หรือหลวงพระบาง. เอ๊ะ…ผมหูฝาดหรืออย่างไร ทำไมเสียงของหลวงปู่ ฯ จึงกลับนิ่มนวลอะไรจะปานนั้น ผมค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากท่าที่ก้มกราบอยู่ เอามือแคะหูทั้งสองข้างอย่างไม่เชื่อมัน และไม่เชื่อมั่น หวาดระแวงเต็มที่เลย เอาไงนี่…
ศิลาจารึกกรุงสุโขทัยที่มีอยู่ในหอสมุดนี้ เริ่มรวบรวมแต่ในรัชกาลที่ three มีจดหมายเหตุปรากฎว่า เมื่อ พ.ศ. 2394 ต่อมาจึงโปรด ฯ ให้ย้ายพระแท่นมนังคศิลามาก่อแท่นประดิษฐานไว้หน้าวิหารพระคันธารราฐในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม… เรื่องราวของหลวงปู่สรวง พระอริยะสงฆ์ผู้พิสดารที่อยู่เหนือกาลเวลา ได้มีผู้เคยถาม หลวงปู่ฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ ว่า หลวงปู่รู้จัก หลวงปู่สรวง แห่งท้องทุ่งศรีสะเกษ หรือเปล่าครับ? ตามประวัติกล่าวไว้ว่า…เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.1897 สมัยที่ “พระเจ้าสามฝั่งแกน” ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมารักกะเทาะออกจึงพบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ “พระแก้วมรกต” หลังจากนั้นได้รับการอัญเชิญพระแก้วมรกตไปประดิษฐาน ณ เมืองต่างๆ ตามลำดับ ดังนี้ ลำปาง เชียงใหม่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ.2321 จนถึงปัจจุบัน…
หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ตอบทันที ทั้งๆ ที่หลวงพ่อมิได้ลุกออกไปข้างนอกแต่อย่างใด ท่านบอกสั้นๆ เพียงคำเดียวเท่านั้น แต่เข้าใจแจ่มแจ้งดีแท้ๆ ว่า… เป็นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนาที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้ว หลวงพ่อของพวกเราเป็นองค์รับรองอย่างแข็งขัน และพระสุปฏิปันโนทุกๆ องค์ที่หลวงพ่อเคยพาพวกเราไปนมัสการมา ก็รับรองเช่นนั้น … หลวงพ่อได้เมตตาไปพักที่บ้านของคุณป้าเสงี่ยม เกินกว่า ๑๐ ครั้ง เพราะอากาศดีกับสุขภาพของท่าน และเพื่อโปรดโยมในอดีตให้ปรารถนาพระนิพพานในชาตินี้นั่นเอง….
เจ้าฟ้ามงกุฎทรงสนพระทัยในจารึกหลักภาษาเขมร (จารึกวัดป่ามะม่วง) มากกว่า. เพราะมีเหตุจูงใจให้ท่านชื่นชอบ พรญาลือไทในจารึกหลักเขมรนั้น เป็นคนนำไพร่พลจากศรีสัชนาลัยเข้าไปจู่โจมเมืองสุโขทัย แล้วยึดบ้านเมืองไว้ได้ มีการตีความว่าท่านเป็นผู้แย่งชิงราชสมบัติคืนมา (เหมือนกับท่านต้องรี้ราชภัยไปทรงผนวช แล้วค่อยสึกกลับมาครองราชย์ใหม่) และพรญาลือไทราช ทรงเชี่ยวชาญในตำราโหราศาสตร์ (ดุจเดียวกับพระองค์) และการเสด็จออกพระผนวชโดยพระสังฆราชจากลังกาที่ผ่านมาทางเมืองมอญ. ตอนปลายปี พระเจ้ากรุงสยาม (มีศุภสาร) กราบทูลว่า เมื่อชั่วพระราชบิดา ราชสำนัก (จีน-หยวน) เคยพระราชทานอานม้า บังเหียนม้า ม้าขาว แลเสื้อด้ายกรองทอง จึงใคร่ขอพระราชทาน (สิ่งของดังกล่าว) ตามทำนองเดียวกัน อย่างไรก็ตามอัครมหาเสนาบดีหวันเจ๋อต๋าลาหั่น ถวายความเห็นว่า ถ้าพระราชทาน ม้าแก่สยาม ซึ่งเป็นอาณาจักรเล็กแล้ว เกรงว่าเซินตู๋ (ปกติหมายถึง สินธุ อินเดีย) ซึ่งเป็นอาณาจักรเพื่อนบ้านของสยาม จักติฉินนินทาราชราชสำนัก (จีน-หยวน) ได้.
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ บรรทัดที่ ๒๗๗๕ – ๔๕๙๗. เปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามมาเป็นไทย และในภาษาอังกฤษ ก็ให้เปลี่ยนจาก Siam เป็น Thailand. ประชมุ ศิลาจารกึ ภาคที่ 1. คณะกรรมการพจิ ารณาและจัดพมิ พ์เอกสารทางประวตั ศิ าสตร์. เมืองหริภุญชัย(ล าพน)ได้ แล้วปราดาภิเษกตัวเองขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนาเมื่อ พ.ศ. สมคิด ศรีสิงห์.
วิหารพระมงคลบพิตร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา ทางทิศใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ พระนาม “พระมงคลบพิตร” พระพุทธปฏิมาศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน eight พระพุทธรูปสำคัญคู่กรุงศรีอยุธยา ที่มีพระพุทธานุภาพเป็นหลักกรุง ซึ่งน่าจะเป็นองค์เดียวกันกับ “พระพุทธสยมภูวญาณโมฬี” ตามคำให้การขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรม ซึ่งกล่าวว่า … เป็นพระพุทธรูปนั่งสมาธิ หน้าตัก sixteen ศอก หล่อด้วยทองเหลือง อยู่ในพระมหาวิหารวัดสุมงคลบพิตร ซึ่งต่อมาเรียกชื่อวัดย่อลง เป็น “วัดมงคลบพิตร” … เจ้าคุณนรฯ ท่านบอกกับอาตมาว่า “ฉันก็ไม่เคยสร้างโบสถ์เหมือนกัน ขอร่วมโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยนะและฉันอธิษฐานจิตให้พระคุณเจ้า และสมเด็จอาจารย์ช่วยให้สำเร็จด้วยดี” ในพิธีการนั่งปลุกเสก ในครั้งนี้หลวงพ่อนรรัตน์ ท่านนั่งปลุกเสกตลอดรุ่ง คือตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า ท่านไม่ลุกขึ้นเลยเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเต็มนับว่าหาได้ยากยิ่ง อาตมภาพได้บันทึกภาพไว้ด้วยแสงธรรมชาติไม่ใช้ไฟช่วย เพราะเกรงว่าแสงไฟจะไปรบกวนหลวงพ่อนรรัตน์ ซึ่งเพื่อนกำลังอยู่ในสมาธิ ภาวนาจิตบริสุทธิ์อย่างยิ่ง …” ท่านแม่ที่มองตาแป๋วลุกพรวดจับชามข้าวที่ท่านถืออยู่วางไว้ จับตัวท่านวางปังออกไปนอกชาน แล้วร้องตะโกนสุดเสียง เอ้า มึงจะตายโหง ตายห่าก็ตายคนเดียว มันจะมาว่าอรหังที่นี่ได้รึ?
วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง จังหวัดเลย ประเทศไทย
เซเดส ตีพิมพ์การอ่านจริง และส่วนที่เจ้าไทย (สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปรเรศวริยาลงกรณ์-พระสังฆราช) แปลออกมา เซเดส ฉลาดพอ ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น. เพื่อไม่ทำให้คนไทยขัดเคือง. แต่ข้อความที่แต่งเติมได้ถูกนำมาใช้เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ จนกระทั่ง ร.6 (สยามมกุฎราชกุมาร) ในสมัยนั้นได้เดินทางไปเมืองเหนือแต่งเรื่องเที่ยวเมืองพระร่วงขึ้นก็หลักฐานชิ้นนั้นอยู่. ตำนานต่าง ๆ ล้วนแต่ถูกแต่งเติมทั้งนั้น.
- กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ…
- ขอท่านพุทธศาสนิกชนโดยถ้วนหน้าจงบูชาความดีของท่านด้วยการปฏิบัติตาม ทุกท่านจะไม่พลาดจากผลของความดี คือความสุขตลอดกาล..
- เมื่อสิ้นรัชสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และพ่อขุนบานเมืองแล้ว พระองค์ได้ครองกรุงสุโขทัย ต่อมาเป็น พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๓ แห่งราชวงศ์พระร่วงสันนิษฐานว่าพระองค์ สิ้นพระชนม์ในราวปี พ.
- พิมพ์ครั้งที่ ๒ ในงานฉลองพระชนมายุครบ ๑๐๐ ปี พ.ศ.
- จารึกของทางเชียงใหม่ พญากือนา หรือกีนา ของเชียงใหม่ ให้ราชโอรสสาบานกัน จะจงรักภักดีรักใคร่กัน.
- คณะกรรมการพจิ ารณาและจัดพมิ พ์เอกสารทางประวตั ศิ าสตร์.
จากตารางที่ ๑ พบว่า วรรณกรรมทางพระพทธศาสนาจะมีมากในสมัยล้านนา (พ.ศ. โครงการศูนย์สุโขทัยศึกษา สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช. ที่มาภาพ 3 เมืองประวัติศาสตร์รุ่งอรุณแห่งอารยธรรมไทย.หน้า 12. จารึกพ่อขุนรามคำแหง ส่งเสริมการค้าขายแบบเสรี “…เจ้าเมืองบ่เอาจกอบ ในไพร่ลู่ทาง เพื่อจูงวัวไปค้าขี่ม้าไปขาย ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า…” นอกจากจะคิดกันไปว่า หลวงพ่อได้นัดพบกับหลวงปู่สีทางจิตเท่านั้น หรือท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่าอย่างไร?
อุโมงค์นาคราช จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
อุดม ประมวลวิทย์. ” “50 กษัตริย์ไทย”. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์. คำหรือข้อความที่เป็นร้อยแก้ว, ความร้อยแก้ว; คู่กับ คาถา 1. อดุ ม ประมวลวิทย.์ ” “50 กษตั ริยไ์ ทย”. สานักพมิ พโ์ อเดยี นสโตร์. สว่างไสวไปทั่วทั้งนคร พิฆัมพรก็แจ่มแจ้งแสงจันทร์เอย.
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงรวมเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงอัจฉริยภาพทั้งด้านการปกครอง เศรษฐกิจ ศาสนาและศิลปวิทยาต่างๆ ที่สำคัญยิ่งคือพระองค์ได้ทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อประมาณ พ. ผมร้องตะโกนสั่งลูกน้องเสียเสียงหลง เนื้อตัวสั่นไปด้วยความดีใจ คนอื่น ๆ ที่มามุงรอฟังข่าวอยู่ก็ฮือฮา แล้วก็มีเสียงเฮ เสียงไชโยโห่หิ๊วด้วยความดีใจตามมาติด ๆ แถมด้วยเสียงมุ่ยมง ๆ อยู่อึงอล ตรงกันข้ามกับเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ ที่เงียบเสียจนแทบจะเรียกว่า ถ้าใครทำเข็มตกลงพื้นสักเล่ม เสียงคงจะดังราวกับฟ้าผ่ากลางอเวจีเลยทีเดียวเชียวน้อง… ขอพรพระ ให้ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงบังเกิดแด่ท่านผู้อ่านพร้อมครอบครัว และญาติสนิทมิตรสหายอันเป็นที่รักทุกๆ ท่าน กับขอให้สุขให้สบายทั้งกายและใจ อีกทั้งของจงสัมฤทธิ์ผลในสิ่งอันพึงหวังจงทุกประการ..เทอญ. ตรวจสอบพระเครื่องอย่างตรงไปตรงมา ตามมาตรฐานสากล พร้อมออกเกียรติบัตรรับรองพระแท้ตามมาตารฐาน ทางชมรมได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการพระเครื่อง และได้รับการการันตรีด้วยผลงาน จนสามารถเป็นอันดับหนึ่งของการตรวจสอบพระเครื่องทั้งในเว็ปและนอกเว็ป จากการไว้วางใจของลูกค้าตลอดมา อีกทั้งชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งใน google อีกด้วย การันตรีด้วยคุณภาพ และผลงาน… อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีผู้ใดได้ทันเห็นใจท่านในวาระที่กายสังขารแตกดับ เพราะพวกเราต่างก็มีภาระมากมาย วุ่นวายโกลาหลกันอยู่ที่งานวัดท่าซุงฯ และระยะทางหรือก็ไกลกัน แม้จะไม่ประมาทในเรื่องของสังขารร่างกาย ว่าความตายไม่มีนิมิตหมาย แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าวาระแตกดับแห่งกายสังขารของหลวงปู่ฯ จะรวดเร็วถึงปานฉะนี้ … ผมขับอยู่นาน เอ๊ะ!
ขอให้เจ้าของผลงานประกวด แก้ไขข้อมูลได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 เวลา 23.30 น. “…เบื้องตีนนอนเมืองสุโขทัยนี้ มีตลาดปสาน…” ตลาดปสาน คือ ตลาดขายของ คำว่า ปสาน มาจากคำเปอร์เซีย บาซาร์ แปลว่า ตลาดสด ไทยรับคำนี้ผ่านภาษามลายู. การบอกตำแหน่งปาไป่สีฟู่ เชียงใหม่ติดกับเสียน (เชียงใหม่ติดกับสุพรรณบุรีนั้นเป็นไปไม่ได้) …นั่นคือสุโขทัยอันเป็นสยามนั่นเอง. จารึกวัดสรศักดิ์ (พศว.20) “…มหาเจดีย์มีช้างรอบ…” แม่ย่าเมือง (เทพที่สุโขทัย) เกี่ยวกับแผ่นดินที่ทำการเกษตร …ลัทธิความอุดมสมบูรณ์…
เมื่อสิ้นรัชสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และพ่อขุนบานเมืองแล้ว พระองค์ได้ครองกรุงสุโขทัย ต่อมาเป็น พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๓ แห่งราชวงศ์พระร่วงสันนิษฐานว่าพระองค์ สิ้นพระชนม์ในราวปี พ. พระมหากษัตริย์มีหน้าที่ส่งเสริมให้ประชาชนทำกินโดยสะดวก “ให้ขี่เรือไปค้าขี่ม้าไปขาย” ไม่ขีดรูดภาษีโดยอำเภอใจ จะเก็บผลประโยชน์จากเกษตรกรได้ไม่เกินร้อยละสิบ ส่วนการเรียกส่วยต้อง “ไม่เอายิ่งเอาเหลือ” ถ้าเอามากไปจะเป็นตัวอย่างให้กษัตริย์ในภายภาคหน้ากดขี่ประชาราษฎร กษัตริย์ที่ดีจักต้องรู้จักความพอดีและพอเพียง และทรงให้ทำเหมืองทำฝายเพื่อให้ปลูกพืชทั้งเพื่อประกอบอาชีพและว่านสมุลไพรต่าง ๆ เช่น “ปลูกหมากพร้าวหมากลาง ที่เป็นป่าเป็นดงให้แผ้วให้ถาง [เป็นเรือกสวนไร่นา]”. สาเหตุที่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นถนนพระร่วงนั้น มาจากสมัย ร.3 เจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จไปเมืองเหนือได้จารึกมาสองหลัก คือจารึกพ่อขุนรามคำแหง และจารึกวัดป่ามะม่วงที่เป็นภาษาเขมร ครั้งนั้นนักวิชาการยังอ่านอักษรพ่อขุนรามคำแหงยังไม่ได้ แต่คุ้นอักษรภาษาเขมรมากกว่า มีการประชุมนักวิชาการพบว่า เป็นเรื่องเสริมแต่งทั้งหมด เมื่อครั้งมีการประชุมศิลาจารึกสยาม เมื่อ ค.ศ.1924 โดย จอช เซเดส เป็นบรรณารักษ์หอพระสมุดวชิรญาณนั้น มีแปลเป็นภาษาฝรั่งเศส. หัวหน้าคณะ และอาจารย์ของเรานี้ ความจริงท่านก็มีลักษณะเหมือนท่านพระครูพรหมจักรสังวรอยู่ ในเรื่องของการพูดโดยไม่ต้องเขียนเป็นหนังสือไว้ก่อน ยกเว้นแต่หนังสือ “คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน” เล่มเดียว นอกนั้นว่าปากเปล่าโดยตลอด (หนังสือบางเล่มก็ ๒๐๐ กว่าหน้า) เรียกว่าไม่เบาเหมือนกัน สำหรับท่านองค์นี้ หลวงพ่อบอกว่าอภิญญาไวมาก.. คือว่าหลวงพ่อสิมนั้นเองจวนจะสำเร็จกิจพระศาสนาแล้ว เรื่องนี้หลวงพ่อกระซิบกับพวกเรา ภายหลังว่าหลวงพ่อสิมยังติดนิดเดียว สงสัยว่าการมาของพวกเราคราวนี้คงเป็นการสะกิดอะไรบ้างอย่างทำให้ท่านหลุดพ้นไปได้เลย (ต่อมาภายหลังเพียงไม่กี่วันหลวงพ่อก็ตอบคำถามพวกเราว่าได้เป็นอย่างที่ท่านแจ้งไว้แล้ว คือหลวงพ่อสิม ขยับขึ้นไประดับเดียวกับหลวงปู่ตื้อแล้ว. การก่อตั้งอาณาสุโขทัยเป็นอาณาถือเอาการที่พ่อขุนผาเมือง และพ่อขุนบางกลางหาวร่วมกันกำจัดศัตรูและยึดเมืองสุโขทัยไว้ได้ โดยพ่อขุนบางกลางหาวได้เป็นกษัตริย์ครองกรุงสุโขทัย ตั้งราชวงศ์ใหม่เฉลิมพระนามเป็นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เมื่อประมาณพ.ศ.