กฎหมายเป็นกติกาของรัฐที่ควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคม มันช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย ผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามที่กำหนดไว้
กฎหมายมีผลต่อชีวิตเราตั้งแต่เกิดจนตาย เราจึงต้องเข้าใจกฎหมายสำคัญ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตัวเอง
กฎหมายไทยมีหลายด้าน เช่น อาญา พาณิชย์ แรงงาน ทรัพย์สินทางปัญญา และสิ่งแวดล้อม แต่ละด้านส่งผลต่อชีวิตประชาชนโดยตรง
เราควรให้ความสำคัญและเรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง เพื่อประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ความหมายและความสำคัญของกฎหมาย
กฎหมายคือข้อบังคับและกติกาที่รัฐกำหนด เพื่อควบคุมความประพฤติของคนในสังคม ผู้ฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามที่กำหนด
กฎหมายช่วยให้สังคมสงบเรียบร้อย และกำกับดูแลความประพฤติของบุคคล นอกจากนี้ยังคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
กฎหมายมีหลายประเภท เช่น แพ่ง อาญา และพาณิชย์ ประชาชนควรเข้าใจสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของตน
ความรู้กฎหมายสำคัญสำหรับทุกคน ช่วยให้ใช้ชีวิตถูกต้องตามกฎหมาย สร้างสังคมยุติธรรมและสงบสุข
กฎหมายเกี่ยวกับบุคคล
ระบบกฎหมายไทยให้ความสำคัญกับ “บุคคล” อย่างมาก บุคคลมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย แบ่งเป็นสองประเภทหลัก คือ บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ความหมายของคำว่า “บุคคล”
บุคคล คือสิ่งที่กฎหมายรับรองให้มีสภาพบุคคล มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย สภาพบุคคลของบุคคลธรรมดามีองค์ประกอบหลายอย่าง
ได้แก่ ชื่อตัว-ชื่อสกุล สัญชาติ ภูมิลำเนา และสถานะทางกฎหมาย เช่น การสาบสูญ
ประเภทของบุคคล
- บุคคลธรรมดา คือ บุคคลที่เป็นมนุษย์ตามธรรมชาติ
- นิติบุคคล คือ บุคคลซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีสถานะเป็นบุคคล เช่น บริษัท มูลนิธิ สมาคม
ส่วนประกอบของสภาพบุคคล
สภาพบุคคลของบุคคลธรรมดามีส่วนประกอบสำคัญ 4 ประการ ดังนี้
- ชื่อตัว-ชื่อสกุล
- สัญชาติ
- ภูมิลำเนา
- สถานะทางกฎหมาย เช่น การสาบสูญ
การสาบสูญเกิดขึ้นเมื่อบุคคลหายไปนานเกินกว่า 7 ปี หรือหายในสถานการณ์อันตราย กฎหมายมีขั้นตอนและผลทางกฎหมายเฉพาะสำหรับกรณีนี้
กฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์และทรัพย์สิน
กฎหมายไทยแยกความหมายของ “ทรัพย์” และ “ทรัพย์สิน” อย่างชัดเจน คำนิยามทั้งสองช่วยให้เข้าใจและนำไปใช้ได้ถูกต้อง ความรู้นี้สำคัญสำหรับการปกป้องสิทธิของตนเอง
ความหมายของ “ทรัพย์” และ “ทรัพย์สิน”
ทรัพย์ คือวัตถุหรือสิ่งที่มีรูปร่าง ทรัพย์สิน รวมถึงทรัพย์และสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง เช่น ลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินมีค่าและสามารถครอบครองได้
ประเภทของทรัพย์สิน
ทรัพย์สินแบ่งตามความสามารถในการเคลื่อนย้ายและลักษณะความเป็นเอกเทศ แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
- สังหาริมทรัพย์ (movable properties): ทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ เช่น รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องประดับ
- อสังหาริมทรัพย์ (immovable properties): ทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น ที่ดิน อาคาร บ้านเรือน
ทรัพย์สินยังแบ่งเป็นทรัพย์แบ่งได้และทรัพย์แบ่งไม่ได้ตามลักษณะความเป็นเอกเทศ การเข้าใจประเภทเหล่านี้ช่วยในการจัดการทรัพย์สินอย่างเหมาะสม
ความรู้เรื่องทรัพย์และทรัพย์สินช่วยในการใช้ชีวิตประจำวัน ประชาชนสามารถปกป้องสิทธิของตนได้ดีขึ้น การเข้าใจกฎหมายนี้เป็นประโยชน์ต่อทุกคน
นิติกรรม
นิติกรรมเป็นการแสดงเจตนาทางกฎหมาย มันสามารถก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับสิทธิได้ นิติกรรมเป็นหัวข้อสำคัญในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายได้กำหนดหลักการและวิธีการทำนิติกรรมไว้อย่างชัดเจน
ความหมายของนิติกรรม
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 นิติกรรมคือการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายและสมัครใจ มันมุ่งสร้างนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพื่อก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับสิทธิ
หลักการทำนิติกรรม
การทำนิติกรรมมีหลักสำคัญ 2 ประการ
- การแสดงเจตนาด้วยความสมัครใจ โดยการกระท านั้นต้องเป็นการกระท าโดยสมัครใจ ไม่ใช่การกระท าที่ถูกบังคับ
- มีเจตนาที่จะให้เกิดผลตามกฎหมาย การกระท านั้นต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะให้เกิดผลทางกฎหมายตามที่ต้องการ
นิติกรรมโมฆะและโมฆียะ
นิติกรรมที่ไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายเป็นนิติกรรมโมฆะ มันเสียหายสมบูรณ์ตั้งแต่แรก นิติกรรมโมฆียะมีผลสมบูรณ์จนกว่าจะถูกบอกล้าง
สัญญาต่างๆ และประเภทของสัญญา
สัญญาเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกรรมและความสัมพันธ์ทางกฎหมาย มีหลายประเภทที่มีข้อกำหนดและเงื่อนไขแตกต่างกัน เราควรเข้าใจประเภทของสัญญาที่สำคัญ
โดยเฉพาะสัญญาซื้อขายทั้งแบบธรรมดาและเฉพาะอย่าง สัญญาเหล่านี้พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน
สัญญาซื้อขายธรรมดา
สัญญาซื้อขายธรรมดาแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้:
- คำมั่นว่าจะซื้อหรือจะขาย
- ข้อตกลงซื้อขาย
- สัญญาซื้อขาย
สัญญาซื้อขายเฉพาะอย่าง
สัญญาซื้อขายเฉพาะอย่างเป็นสัญญาที่มีลักษณะเฉพาะ ตัวอย่างเช่น:
- สัญญาซื้อขายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
- สัญญาซื้อขายเกี่ยวกับหุ้น
- สัญญาซื้อขายวัตถุดิบ
แต่ละประเภทของสัญญาซื้อขายเฉพาะอย่างมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน
กฎหมายครอบครัว
กฎหมายครอบครัวมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนไทย มันครอบคลุมเรื่องการสมรส การหย่า และความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมถึงเรื่องมรดกและทรัพย์สิน
ประชาชนควรเข้าใจหลักการของกฎหมายครอบครัว เพื่อใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น กฎหมายกำหนดให้ผู้สมรสต้องมีอายุอย่างน้อย 17 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
การหมั้นต้องมีการถ่ายทอดทรัพย์สินเพื่อแสดงเจตนาสมรส เมื่อสมรสแล้ว กฎหมายกำหนดสิทธิและหน้าที่ของคู่สมรส รวมถึงทรัพย์สินระหว่างกัน
กฎหมายคุ้มครองสิทธิและหน้าที่ของคนในครอบครัว เช่น การอุปการะเลี้ยงดูบุตร และการจัดการทรัพย์สินของบุตร ความรู้เรื่องกฎหมายครอบครัวช่วยให้เราปฏิบัติตามกฎหมายและรักษาความสงบสุขในครอบครัว
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการหมั้นและการสมรส
- ตามมาตรา 1435 ผู้ที่จะสมรสกันต้องมีอายุอย่างน้อย 17 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
- การหมั้นต้องมีการถ่ายทอดทรัพย์สินเพื่อเป็นหลักฐานและประกันการสมรส (มาตรา 1437)
- การหมั้นและการสมรสที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดจะตกเป็นโมฆะ
สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรส
- คู่สมรสต้องมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่บุตร (มาตรา 1564)
- ผู้ปกครองมีสิทธิในการกำหนดที่อยู่ของบุตร ทำโทษบุตร ให้บุตรทำการงาน และเรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่น (มาตรา 1567)
- การเพิกถอนอำนาจปกครองเนื่องจากการเลี้ยงดูบุตรโดยมิชอบ (มาตรา 1582)
เรื่อง | ข้อกำหนด |
---|---|
ทรัพย์สินระหว่างสมรส | ทรัพย์สินส่วนตัวและทรัพย์สินร่วม เช่น ทรัพย์สินที่จำเป็นต่อการใช้ส่วนตัว เครื่องแต่งกาย หรือเครื่องมือในการประกอบอาชีพ และทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส รวมถึงมรดกหรือของขวัญ |
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดกฎเกณฑ์ในการดำเนินชีวิตของประชาชน มันครอบคลุมเรื่อง บุคคล ทรัพย์สิน นิติกรรม สัญญา ละเมิด ครอบครัว และมรดก กฎหมายนี้สำคัญต่อชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย
กฎหมายพาณิชย์เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจการค้า การประกอบอาชีพ และการประกอบกิจการต่างๆ ด้วย มันมีผลต่อการทำธุรกิจและการทำงานของคนไทย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ “ป.พ.พ.” เริ่มร่างในรัชกาลที่ 5 มีการประกาศใช้ในรัชกาลที่ 6 แบ่งเป็น 6 บรรพ
- บรรพ 1 หลักทั่วไป
- บรรพ 2 หนี้
- บรรพ 3 เอกเทศสัญญา
- บรรพ 4 ทรัพย์สิน
- บรรพ 5 ครอบครัว
- บรรพ 6 มรดก
กฎหมายนี้มีอายุเกือบหนึ่งศตวรรษแล้ว การจัดทำใช้เวลา 15 ปี มีการแก้ไขและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
มาตรา | เนื้อหา |
---|---|
มาตรา 7 | กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยเป็น 7.5% ต่อปี หากไม่ระบุในสัญญา |
มาตรา 11 | ในกรณีที่มีความสงสัย ให้ตีความเป็นคุณแก่ลูกหนี้ |
มาตรา 15 | สภาพบุคคลของบุคคลเริ่มตั้งแต่เกิดจนถึงตาย |
มาตรา 19 | บุคคลบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ |
มาตรา 25 | ผู้เยาว์อายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถทำพินัยกรรมได้ |
มาตรา 28 | ศาลสามารถแต่งตั้งผู้อนุบาลให้บุคคลที่ไร้ความสามารถ |
มาตรา 29 | การฝ่าฝืนคำสั่งศาลเกี่ยวกับการตั้งผู้อนุบาล ถือเป็นความผิดทางอาญา |
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชน มันครอบคลุมเรื่องบุคคล ทรัพย์สิน สัญญา และการประกอบธุรกิจ กฎหมายนี้ถูกกำหนดไว้อย่างละเอียดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
กฎหมายอาญา
กฎหมายอาญากำหนดความผิดและโทษ ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษตามกฎหมาย กฎหมายนี้ช่วยให้สังคมมีความสุขและปลอดภัย กฎหมายอาญาไทยพัฒนาจากประวัติศาสตร์ให้เข้ากับสังคมปัจจุบันและมาตรฐานสากล
กฎหมายอาญาโดยทั่วไปในไทยเน้นความชัดเจนและถูกต้อง เพื่อใช้อย่างเป็นธรรมและสอดคล้อง ความผิดทางอาญามีสองประเภท คือละเมิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย
ประเภทของความผิดและโทษ
กฎหมายอาญาไทยแบ่งความผิดเป็นสามประเภท ได้แก่ การกระทำความผิด การละเว้นการกระทำ และความประมาทเลินเล่อ การลงโทษมีเป้าหมายเพื่อการردร้อน การลงโทษ และการแก้ไขผู้กระทำผิด
โทษมีไว้เพื่อรักษาความสงบในสังคมและปรับเปลี่ยนผู้กระทำผิด กฎหมายยังกำหนดเขตอำนาจและความรับผิดชอบของเอกชนในการร่วมดำเนินคดี การพยายามกระทำผิดก็ถูกลงโทษได้
ประเภทของความผิด | ลักษณะของการกระทำ | ตัวอย่างความผิด | โทษ |
---|---|---|---|
การกระทำความผิด | การกระทำใดๆ ที่ละเมิดกฎหมาย | การลักทรัพย์, การข่มขืนกระทำชำเรา | จำคุก, ปรับ, ประหารชีวิต |
การละเว้นการกระทำ | การไม่กระทำการใดๆ ที่กฎหมายบังคับให้ต้องกระทำ | การไม่ช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในอันตราย | จำคุก, ปรับ |
ความประมาทเลินเล่อ | การกระทำโดยขาดความระมัดระวังตามสมควร | การขับรถชนคนเดินเท้า | จำคุก, ปรับ |
กฎหมายปกครอง
กฎหมายปกครองสำคัญต่อการปกครองและบริหารงานของรัฐ มันกำหนดโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานรัฐ กฎหมายนี้ยังรับรองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ
กฎหมายปกครองแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ แต่ละฝ่ายมีบทบาทสำคัญในการบริหารประเทศ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีสองประเภท คือ หน่วยงานทางการและหน่วยงานทางสาระ ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระ
หน่วยงานเหล่านี้ดูแลความมั่นคง ความสงบ และความสะดวกสบายของประชาชน แนวคิดหลักคือการทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะ
หน่วยงานปกครองทำงานแบบ “นิติกรรมฝ่ายเดียว” เช่น ออกกฎหรือคำสั่ง หรือ “นิติกรรมหลายฝ่าย” เช่น ทำสัญญาทางปกครอง
ประเภทของกฎหมายปกครอง | คำอธิบาย |
---|---|
ฝ่ายนิติบัญญัติ | หน่วยงานที่ทำหน้าที่ออกกฎหมาย เช่น รัฐสภา |
ฝ่ายบริหาร | หน่วยงานที่มีหน้าที่นำกฎหมายไปใช้บังคับ เช่น กระทรวง ทบวง กรม |
ฝ่ายตุลาการ | หน่วยงานที่ทำหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยข้อพิพาท เช่น ศาลปกครอง |
กฎหมายปกครองมีความสำคัญต่อการบริหารราชการและรัฐธรรมนูญ มันกำหนดโครงสร้างและหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ กฎหมายนี้ยังคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
กฎหมายสิ่งแวดล้อม
กฎหมายสิ่งแวดล้อมคือกฎหมายที่จัดการและคุ้มครองสิ่งแวดล้อม มันป้องกันและแก้ไขปัญหามลภาวะที่อาจเกิดขึ้น กฎหมายนี้สำคัญต่อการรักษาสมดุลระบบนิเวศและชีวิตประชาชน
ปี 2544 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดหลักสูตรปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของไทย ปี 2561 ยังตั้งศูนย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมสอนระดับปริญญาตรีและโท
หลักสูตรนี้ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อมและธุรกิจ การจัดการทรัพยากร และกฎหมายระหว่างประเทศ มุ่งสร้างบัณฑิตที่ปรับตัวได้ต่อการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี
กฎหมายสิ่งแวดล้อมไทยพัฒนามาตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เริ่มจาก พ.ร.บ. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2503 แต่การนำไปปฏิบัติยังมีความท้าทาย
รัฐธรรมนูญไทยกำหนดให้รัฐดูแลสิ่งแวดล้อมและจัดการมลภาวะ ประชาชนมีสิทธิร่วมจัดการทรัพยากรธรรมชาติ นี่คือพื้นฐานสำคัญของกฎหมายสิ่งแวดล้อมไทย
ปีที่ตราพ.ร.บ. | ชื่อพ.ร.บ. | สาระสำคัญ |
---|---|---|
2522 | พ.ร.บ. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย | จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมพร้อมข้อกำหนดด้านการใช้ที่ดิน การให้เช่า และการให้บริการ |
2535 | พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ | เพื่อแก้ไขปัญหามลภาวะที่เกิดจากการเจริญเติบโตทางประชากรและอุตสาหกรรม |
2535 | พ.ร.บ. วัตถุอันตราย | แทนกฎหมายเดิมเนื่องจากมีการใช้วัตถุอันตรายเพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรม |
2535 | พ.ร.บ. สาธารณสุข | ขยายขอบเขตการกำกับดูแลกิจกรรมด้านสาธารณสุขเพื่อเฝ้าระวังและปกป้องสิ่งแวดล้อม |
กฎหมายสิ่งแวดล้อมเป็นกลไกสำคัญในการจัดการและคุ้มครองสิ่งแวดล้อม มันรักษาสมดุลระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตประชาชน การบังคับใช้ยังเป็นความท้าทายที่ต้องพัฒนาต่อไป
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นประเด็นสำคัญด้านกฎหมาย กฎหมายคุ้มครองสิทธิในผลงานสร้างสรรค์ เช่น ลิขสิทธิ์, สิทธิบัตร, และเครื่องหมายการค้า กฎหมายเหล่านี้ส่งเสริมการสร้างสรรค์และนวัตกรรมในสังคม
ทรัพย์สินทางปัญญามี 2 ประเภทหลัก คือ ลิขสิทธิ์ และ ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม สิทธิบัตรเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม แบ่งเป็น 3 ประเภท
กรมทรัพย์สินทางปัญญาดูแลกฎหมาย 7 ฉบับ ล่าสุดมีการตราพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564
ทรัพย์สินทางปัญญามี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ สังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินทางปัญญา ระยะเวลาคุ้มครองแตกต่างกันไป
ลิขสิทธิ์คุ้มครองตลอดชีวิตผู้สร้างสรรค์ บวก 50 ปีหลังเสียชีวิต สิทธิบัตรคุ้มครอง 20 ปี เครื่องหมายการค้าคุ้มครอง 10 ปี ต่ออายุได้
กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาคุ้มครองผลงานและส่งเสริมนวัตกรรม ครอบคลุมหลายประเภท ตั้งแต่ ลิขสิทธิ์ ถึงความลับทางการค้า
ประเภททรัพย์สินทางปัญญา | ระยะเวลาคุ้มครอง |
---|---|
ลิขสิทธิ์ | ตลอดชีวิตของผู้สร้างสรรค์ + 50 ปี |
สิทธิบัตร | ประมาณ 20 ปี หรือตามการชำระค่าธรรมเนียมรายปี |
สิทธิบัตรย่อย | 6 ปี และสามารถขยายเวลาคุ้มครองเพิ่มอีก 2 ครั้ง x 2 ปี (รวม 10 ปี) |
เครื่องหมายการค้า | 10 ปี และสามารถต่ออายุได้ทุก 10 ปี |
พันธุ์พืช | ตามลักษณะพันธุ์พืช |
แบบผังภูมิวงจรรวม | 10 ปีนับตั้งแต่ยื่นคำขอจดทะเบียน |
ความลับทางการค้า | ไม่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง |
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ | ตามกฎหมาย |
กฎหมายแรงงาน
กฎหมายแรงงานคุ้มครองสิทธิแรงงานและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสถานประกอบการ มันกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับสวัสดิการ เงื่อนไขการจ้างงาน และความปลอดภัยในการทำงาน กฎหมายนี้บังคับใช้กับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดมาตรฐานการจ้างงาน มันครอบคลุมเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ ชั่วโมงทำงาน วันหยุด และค่าชดเชย
กฎหมายนี้มี 166 มาตรา ยกเว้นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และงานบางประเภท เช่น โรงเรียนเอกชน งานบ้าน และเกษตร
กฎหมายแรงงานครอบคลุมการจ้างงานทั่วไป การจ้างสตรีและเด็ก และการเลิกจ้าง มันกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับลูกจ้าง เช่น วันลาป่วย วันลากิจ และวันลาประจำปี
ระยะเวลาการทำงาน | ค่าชดเชย (วันค่าจ้าง) |
---|---|
120 วัน – 1 ปี | 30 วัน |
1 – 3 ปี | 90 วัน |
3 – 6 ปี | 180 วัน |
6 – 10 ปี | 240 วัน |
10 ปีขึ้นไป | 300 วัน |
กฎหมายแรงงานคุ้มครองสิทธิแรงงานและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มันสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
กฎหมายคอมพิวเ
กฎหมายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญในสังคมยุคดิจิทัล ประเทศไทยได้แก้ไข พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ให้ทันสมัย บทลงโทษรุนแรงขึ้นสำหรับการกระทำผิดบางประเภท
ความผิดร้ายแรงรวมถึงการเผยแพร่เนื้อหาผิดกฎหมาย ทำลายข้อมูลสำคัญของประเทศ และก่อกวนความสงบ ผู้ดูแลเพจต้องตรวจสอบและลบความเห็นไม่เหมาะสม หากละเลยอาจต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย
การโพสต์หมิ่นประมาท ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือแชร์รูปเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจถูกลงโทษ กฎหมายใหม่เน้นความปลอดภัยไซเบอร์ การรักษาข้อมูล และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บทลงโทษมีทั้งจำคุกและปรับเงินตามความร้ายแรง