คนดังผู้สืบสันดาน คือ อะไร? ความหมายและคำอธิบาย

ผู้สืบสันดาน คือ อะไร? ความหมายและคำอธิบาย

ต้องอ่าน

ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 บัญญัติว่า “ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น” ผู้สืบสันดาน หรือทายาทโดยตรง เช่น บุตร หลาน มีสิทธิได้รับมรดกก่อนอื่นตามกฎหมาย. ดังนั้น ผู้สืบสันดานหมายถึงทายาทโดยตรงของเจ้ามรดก. สิ่งนี้มีความสำคัญและคุณค่าในการสานต่อเชื้อสายของครอบครัว.

การมีบุตรเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมและสายเลือด. นี่เป็นรากฐานสำคัญของผู้สืบสันดาน. ตามกฎหมาย ผู้สืบสันดานจะได้รับสิทธิในการรับมรดกจากเจ้ามรดก.

ผู้สืบสันดาน คือ

ผู้สืบสันดานคือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือเชื้อสายกับบุคคลที่เสียชีวิต. พวกเขามีสิทธิ์ในการรับมรดกและทรัพย์สินจากผู้เสียชีวิต. ทายาทแบ่งออกเป็นสองประเภท: ทายาทโดยธรรมและทายาทตามพินัยกรรม.

ผู้สืบสันดานที่เป็นบุตรของเจ้ามรดกมีสิทธิโดยธรรม. บุตรชอบด้วยกฎหมายและบุตรบุญธรรมก็มีสิทธิเช่นกัน. แม้แต่บุตรนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรองก็อาจมีสิทธิได้รับมรดกบางส่วนในกรณีพิเศษ.

การมีผู้สืบสันดานน้อยลงเป็นปัญหาที่ท้าทายในปัจจุบัน. อัตราการเกิดและการเข้าสู่วัยทำงานลดลง. กฎหมายได้ปรับปรุงเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้.

ประเภททายาทคำอธิบาย
ทายาทโดยธรรมได้แก่ ญาติที่เป็นบุคคลที่กฎหมายกำหนดให้มีสิทธิรับมรดก เช่น บุตร คู่สมรส ญาติ 6 ลำดับ
ทายาทตามพินัยกรรมได้แก่ บุคคลที่ผู้เสียชีวิตได้ระบุไว้ในพินัยกรรมว่าให้มีสิทธิได้รับมรดก

การเป็นทายาททางกฎหมาย

หลังจากผู้ตายเสียชีวิต กฎหมายกำหนดให้มี “ทายาท” ที่จะรับมรดกไว้ ทายาทแบ่งออกเป็นสองประเภท: ทายาทโดยธรรม และทายาทตามพินัยกรรม

ทายาทโดยธรรมและทายาทตามพินัยกรรม

ทายาทโดยธรรม คือผู้ที่มีสิทธิรับมรดกตามกฎหมาย มักจะเป็นญาติของผู้ตาย เช่น คู่สมรส บุตร และญาติใกล้ชิด

ทายาทตามพินัยกรรม คือผู้ที่ผู้ตายระบุไว้ในพินัยกรรมให้มีสิทธิรับมรดก อาจเป็นญาติหรือบุคคลอื่น

ลำดับการรับมรดกของทายาท

กฎหมายกำหนดลำดับของทายาทโดยธรรมไว้ 6 ลำดับ ผู้สืบสันดานมีสิทธิได้รับมรดกก่อนอื่น

  1. ผู้สืบสันดานของผู้ตาย
  2. คู่สมรสของผู้ตาย
  3. บิดามารดาของผู้ตาย
  4. พี่น้องของผู้ตาย และบุตรของพี่น้องที่เสียชีวิตไปก่อน
  5. ปู่ย่าตายายของผู้ตาย
  6. ลุง ป้า น้า อา ของผู้ตาย และบุตรของพวกเขา

ทายาทในลำดับ 1 และ 2 มีสิทธิรับมรดกก่อน ทายาทในลำดับ 3 ถึง 6 จะได้รับมรดกหากไม่มีทายาทในลำดับก่อน หรือทายาทก่อนหน้าไม่ต้องการ

ผู้สืบสันดานต่างชั้นกัน

ความแตกต่างของ “ชั้นของผู้สืบสันดาน” มีความสำคัญมากในกฎหมายมรดกของไทย มาตรา 1631 ระบุว่า “ในระหว่างผู้สืบสันดานต่างชั้นกันนั้น บุตรของเจ้ามรดกอันอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดานที่อยู่ในชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่โดยอาศัยสิทธิในการรับมรดกแทนที่”

ผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุด

ในกรณีการแบ่งมรดก ผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุด เช่น บุตร จะได้รับมรดกก่อน หากไม่มีใครในระดับนี้ ก็จะถึงชั้นต่อไป เช่น หลาน

การรับมรดกแทนที่

ระบบ “การรับมรดกแทนที่” ช่วยให้ทรัพย์สินของผู้ตายถ่ายทอดไปยังทายาทต่อไปตามลำดับ ทำให้กองมรดกไม่แค่ชั้นเดียว แต่แบ่งปันไปยังทายาทหลายชั้นตามกฎหมาย

ชั้นของผู้สืบสันดานสิทธิในการรับมรดก
ชั้นบุตรมีสิทธิรับมรดกก่อนชั้นอื่น
ชั้นหลานรับมรดกแทนที่ชั้นบุตรที่ไม่อยู่แล้ว
ชั้นเหนือกว่านั้นรับมรดกต่อเมื่อผู้สืบสันดานชั้นที่สนิทกว่าไม่มีอยู่

ระบบการรับมรดกแทนที่ช่วยให้ทรัพย์สินถ่ายทอดไปยังผู้สืบสันดานในอนาคต ทำให้กองมรดกไม่แค่ชั้นเดียว แต่แบ่งปันไปยังทายาทหลายชั้น สะท้อนถึงความตั้งใจของผู้ตายที่ต้องการให้ทรัพย์สินตกทอดต่อไปในสายตระกูล

สิทธิของผู้สืบสันดาน

ผู้สืบสันดานมีสิทธิสำคัญคือการได้รับมรดกของเจ้ามรดก. สิทธินี้ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย. ผู้สืบสันดานชั้นบุตรมีสิทธิได้รับมรดกก่อนชั้นอื่นตามหลัก “ญาติสนิทตัดญาติห่าง”.

มาตรา 1631 ระบุว่าผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นที่มีสิทธิรับมรดก.

ในกรณีที่มีผู้สืบสันดานชั้นบุตรหลายคน การแบ่งปันมรดกจะตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด. การแบ่งปันโดยทั่วไปจะเป็นแบบเท่า ๆ กัน. แต่ถ้าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมแบ่งสรรทรัพย์สินไว้ อีกแบบก็จะต้องปฏิบัติตามพินัยกรรมนั้น.

นอกจากนี้ ผู้สืบสันดานยังต้องรับผิดชอบในการชำระหนี้สินของเจ้ามรดก. พวกเขาจะแบ่งปันการชำระหนี้ตามมรดกที่ได้รับ. การวางแผนและจัดการเรื่องมรดกจึงเป็นสิ่งสำคัญ.

สิทธิของผู้สืบสันดานรายละเอียด
การรับมรดกผู้สืบสันดานชั้นบุตรมีสิทธิได้รับมรดกก่อนชั้นอื่น ๆ ตามหลัก “ญาติสนิทตัดญาติห่าง”
การแบ่งปันมรดกการแบ่งปันมรดกอาจเป็นแบบเท่า ๆ กัน หรือตามที่เจ้ามรดกระบุในพินัยกรรม
การรับผิดชอบหนี้สินผู้สืบสันดานต้องรับผิดชอบในการชำระหนี้สินของเจ้ามรดก ตามมรดกที่ได้รับ

โดยสรุป สิทธิของผู้สืบสันดาน ที่สำคัญคือการได้รับมรดกตามกฎหมาย. ผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดจะได้รับก่อน. และพวกเขายังต้องรับผิดชอบในการชำระหนี้สินของเจ้ามรดก.

บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย

ในทางกฎหมายมรดก บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง บุตรที่เกิดจากคู่สมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมาย. บุตรเหล่านี้ถือเป็น ทายาทโดยธรรม และมีสิทธิได้รับมรดกตามกฎหมาย.

เงื่อนไขการเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย

ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1536 และ 1547 กำหนดเงื่อนไข. เงื่อนไขเหล่านี้คือ:

  1. บิดามารดาต้องจดทะเบียนสมรสกันก่อนหรือหลังจากการตั้งครรภ์.
  2. บิดามารดาต้องมีการจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.

ดังนั้น เด็กที่เกิดจากคู่สมรสที่จดทะเบียนตามกฎหมายจึงเป็น บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย. พวกเขามีสิทธิได้รับมรดกตามกฎหมาย.

บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย

บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง

ตามกฎหมาย บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรอง คือ บุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่บิดาได้ยอมรับว่าเป็นบุตรของเขา. แม้จะยังคงเป็นบุตรนอกกฎหมาย แต่ก็มีสิทธิได้รับมรดกจากบิดา. การรับรองโดยพฤตินัย หมายถึง การที่บิดาแสดงความยอมรับโดยการกระทำ ไม่ต้องจดทะเบียน.

การรับรองโดยพฤตินัย

มาตรา 1629 บอกว่า บุตรนอกกฎหมายมีสิทธิในการรับมรดกได้ถ้าได้รับการรับรองจากบิดา. การรับรองโดยพฤตินัย เป็นวิธีที่กฎหมายยอมรับ โดยไม่ต้องจดทะเบียน. หากบิดาแสดงความยอมรับ เช่น อุปการะเลี้ยงดู หรือแนะนำให้คนอื่นว่าเป็นบุตรของเขา ก็ถือว่าเป็นการรับรองโดยพฤตินัย.

ดังนั้น บุตรนอกกฎหมายที่ได้รับการรับรองโดยพฤตินัยจึงมีสิทธิเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย. พวกเขามีสิทธิได้รับมรดกจากบิดา ไม่ว่าจะมีการจดทะเบียนหรือไม่.

บุตรบุญธรรม

บุตรบุญธรรมเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของครอบครัว. เมื่อได้รับเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว, เขาจะมีสิทธิในทรัพย์สินและมรดกของผู้รับเหมือนกับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย. แต่การเป็นบุตรบุญธรรมต้องตามกฎหมายและขั้นตอนที่กำหนดไว้.

กฎหมายกำหนดให้บุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องมีอายุมากกว่าผู้เป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี. ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีจะต้องยินยอมด้วยตนเอง. ส่วนผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่เป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจากบิดาและมารดาหรือผู้ปกครอง.

การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมเป็นสิ่งสำคัญ. มันจะเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์และสิทธิทางมรดกของบุตรบุญธรรม. ศาลมีบทบาทสำคัญในการพิจารณาและสรุปคำพิพากษาที่สนับสนุนสิทธิมรดกของบุตรบุญธรรม.

สิทธิของบุตรบุญธรรมรายละเอียด
สิทธิในการรับมรดกบุตรบุญธรรมมีสิทธิในการรับมรดกของผู้รับเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมาย เช่นเดียวกับบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
สิทธิในการจัดการมรดกบุตรบุญธรรมมีสิทธิร้องขอต่อศาลเพื่อแต่งตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกได้
สิทธิทางกฎหมายบุตรบุญธรรมได้รับการยอมรับและคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย เช่น การจดทะเบียนและได้รับหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับการรับบุตรบุญธรรมอีก 2 ฉบับ ที่คุ้มครองเด็กและรับรองการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ. ผู้สนใจควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจกระบวนการและสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบุตรบุญธรรมอย่างถ่องแท้.

การแบ่งปันมรดกระหว่างทายาท

เมื่อเจ้ามรดกเสียชีวิต ทรัพย์สินจะถูกส่งต่อให้กับทายาทตามลำดับ. ผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดจะมีสิทธิรับมรดกก่อน ตามหลัก “ญาติสนิทตัดญาติห่าง”. การแบ่งมรดกจึงต้องพิจารณาตามลำดับชั้นของผู้สืบสันดาน.

บทความที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น  ผล ออก สลากกินแบ่ง รัฐบาล วัน นี้

กฎหมายกำหนดมีทั้งหมด 6 ชั้นของผู้สืบสันดานที่มีสิทธิรับมรดก. เริ่มจากชั้นที่ใกล้ชิดที่สุด:

  1. ทายาทชั้นที่ 1: ลูกหลาน รวมถึงบุตรบุญธรรมที่จดทะเบียน
  2. ทายาทชั้นที่ 2: บิดา มารดา
  3. ทายาทชั้นที่ 3: พี่น้องร่วมบิดามารดา
  4. ทายาทชั้นที่ 4: พี่น้องร่วมแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
  5. ทายาทชั้นที่ 5: ปู่ย่า ตายาย
  6. ทายาทชั้นที่ 6: ลุง ป้า น้า อา และหลาน

คู่สมรสของเจ้ามรดกก็มีสิทธิรับมรดกด้วย. พวกเขาต้องจดทะเบียนสมรสก่อน 1 ตุลาคม 2478. บุตรนอกกฎหมายก็สามารถรับมรดกได้ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นบุตรของเจ้ามรดก.

ในการยื่นคดีแบ่งปันมรดก ต้องทำภายใน 1 ปี หลังจากเจ้ามรดกเสียชีวิต. หรือภายใน 10 ปี หากทราบการเสียชีวิตของเจ้ามรดก. แต่ถ้าทายาทยังไม่ได้แบ่งปันทรัพย์สินกัน สามารถยื่นคดีได้ไม่จำกัดระยะเวลา.

การรับมรดกแทนที่กรณีผู้สืบสันดานเสียชีวิต

เมื่อผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดเสียชีวิตก่อนเจ้ามรดก บุตรของบุตรมีสิทธิ์รับมรดกแทน. ตามกฎหมายเรียกว่า “การรับมรดกแทนที่”

ตามมาตรา 1643 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บอกว่าผู้สืบสันดานมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ ทายาท ที่เสียชีวิตก่อน. “ผู้สืบสันดาน” หมายถึงผู้ที่มีสายโลหิตเดียวกัน. คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 773/2528 ระบุว่าบุตรบุญธรรมถือเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย.

ดังนั้น หากเจ้ามรดก มีผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุด (เช่น บุตร) เสียชีวิตก่อน ผู้สืบสันดานชั้นถัดลงมา (เช่น หลาน) จะมีสิทธิรับมรดกแทนที่ผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดที่เสียชีวิต.

กรณีตัวอย่างสิทธิในการรับมรดกแทนที่
เจ้ามรดกมีบุตร 3 คน และ บุตรคนกลางเสียชีวิตก่อนบุตรอีก 2 คน และบุตรของบุตรคนกลางที่เสียชีวิตจะมีสิทธิรับมรดกแทนที่บุตรคนกลาง
เจ้ามรดกมีบุตรเสียชีวิตก่อน แต่มีหลานหลานจะมีสิทธิรับมรดกแทนที่บุตรเจ้ามรดกที่เสียชีวิตก่อน

การรับมรดกแทนที่ เป็นสิทธิของ ผู้สืบสันดาน ในการรับมรดกแทนผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดที่เสียชีวิตก่อน. เพื่อสืบทอดมรดกต่อไปยังวงศ์ตระกูล. เป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับในสังคมไทยมาช้านาน.

การรับมรดกแทนที่

กฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้สืบสันดาน

ผู้สืบสันดานมีความสำคัญตามกฎหมาย กฎหมายคุ้มครอง ให้สิทธิแก่พวกเขาในการรับสิทธิผู้สืบสันดาน ตามที่ ทายาท พึงได้รับ. ข้อบัญญัติเหล่านี้อยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 ลักษณะมรดก. มันใช้บังคับกับคดีแพ่งเกี่ยวกับมรดกทั่วราชอาณาจักร.

กฎหมายกำหนดให้ กองมรดก ของผู้ตายประกอบด้วยทรัพย์สินทุกชนิด. ไม่ว่าจะเป็นสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์. รวมถึงสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่างๆ ของผู้ตาย.

แต่ศาลฎีกาได้พิพากษาว่า เงินบาเหน็จตกทอด เงินบาเหน็จเพื่อสงเคราะห์ และเงินสงเคราะห์ไม่ใช่มรดกตามกฎหมาย.

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายคุ้มครองสิทธิผู้สืบสันดานรายละเอียด
มาตรา 1600 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดให้กองมรดกของผู้ตายประกอบด้วยทรัพย์สินทุกชนิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2525เงินบาเหน็จตกทอดไม่ใช่มรดกของผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 139/2530สิทธิในเงินบาเหน็จเพื่อสงเคราะห์พนักงานไฟฟ้านครหลวงไม่ใช่มรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 132/2507เงินสงเคราะห์เพื่อช่วยงานศพและอุปการะบุตรของผู้ตายไม่ใช่มรดก

จากคำพิพากษาศาลฎีกา เราจะเห็นว่ากฎหมายคุ้มครองสิทธิของผู้สืบสันดานอย่างชัดเจน. มันช่วยให้ทรัพย์สินของผู้ตายตกทอดไปยังทายาทตามที่กฎหมายกำหนด.

ข้อโต้แย้งทางกฎหมายเกี่ยวกับผู้สืบสันดาน

หลายครั้งเรื่องราวของสิทธิรับมรดกของผู้สืบสันดานนั้นซับซ้อนและขัดแย้งกัน. แต่ศาลฎีกาได้ให้คำพิพากษาที่ช่วยให้เรื่องนี้มีความชัดเจนมากขึ้น.

คำพิพากษาศาลฎีกา

คำพิพากษา 1312/2537 ของศาลฎีกาได้กล่าวถึงสิทธิของบุตรโดยชอบในการรับมรดก. บุตรโดยชอบเป็นทายาทชั้นใกล้ชิดที่สุดและมีสิทธิได้รับมรดกเป็นอันดับแรก. ในทางกลับกัน คำพิพากษา 773/2528 กล่าวถึงสิทธิของผู้รับบุตรบุญธรรมโดยตรงในการรับมรดก.

ดังนั้น การพิจารณาสิทธิของผู้สืบสันดานแต่ละประเภทในการรับมรดกจึงเป็นสิ่งสำคัญ. สิ่งนี้ช่วยให้การแบ่งปันมรดกเป็นธรรมและตามกฎหมาย. เราต้องพิจารณาคำพิพากษาของศาลและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง.

FAQ

ผู้สืบสันดาน คืออะไร?

ผู้สืบสันดานคือบุคคลที่เป็นทายาทโดยตรงของเจ้ามรดก. พวกเขามีสิทธิได้รับมรดกตามกฎหมาย.

ทายาทโดยธรรมและทายาทตามพินัยกรรมมีความแตกต่างกันอย่างไร?

ทายาทแบ่งออกเป็นสองประเภท: ทายาทโดยธรรมและทายาทตามพินัยกรรม. ทายาทโดยธรรมมีหลายประเภท เช่น ทายาทโดยธรรมที่เป็นญาติและคู่สมรส.

ทายาทโดยธรรมที่เป็นผู้สืบสันดานอยู่ลำดับที่หนึ่ง.

ผู้สืบสันดานต่างชั้นกันคืออะไร?

ผู้สืบสันดานต่างชั้นกันหมายถึงผู้สืบสันดานที่อยู่ในชั้นที่ต่างกัน. เช่น บุตรกับบุตรของบุตร.

ตามกฎหมาย มาตรา 1631 ระบุว่า “ผู้สืบสันดานที่อยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก”.

บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายคืออะไร?

บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายคือบุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่จดทะเบียนสมรสกัน. พวกเขามีสิทธิได้รับมรดกตามกฎหมาย.

บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองคืออะไร?

บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองคือบุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน. แต่บิดายอมรับว่าเป็นบุตรของตน.

สถานะยังคงเป็นบุตรนอกกฎหมาย แต่มีสิทธิได้รับมรดกจากบิดา.

บุตรบุญธรรมเป็นผู้สืบสันดานหรือไม่?

บุตรบุญธรรมเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของผู้สืบสันดาน. การรับเป็นบุตรบุญธรรมทำให้บุตรบุญธรรมมีสิทธิในทรัพย์สินและมรดก.

หากผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดเสียชีวิตก่อนเจ้ามรดก จะเกิดอะไรขึ้น?

หากผู้สืบสันดานชั้นสนิทที่สุดเสียชีวิตก่อนเจ้ามรดก ผู้สืบสันดานชั้นถัดลงไปมีสิทธิรับมรดก. ตามกฎหมายเรียกว่า “การรับมรดกแทนที่”.

กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้สืบสันดานคืออะไร?

กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้สืบสันดานคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์. มีบทบัญญัติเกี่ยวกับทายาทโดยธรรมและสิทธิในการรับมรดก.

เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้สืบสันดานในการได้รับมรดกตามกฎหมาย.

สารบัญ

บทความล่าสุด