ความรู้วัคซีน HPV: ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศ

วัคซีน HPV: ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศ

ต้องอ่าน

วัคซีน HPV ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ มันป้องกันได้ทั้งหูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก

วัคซีนนี้สำคัญสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อ HPV

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัส HPV

เชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกและหูดหงอนไก่ มันมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ บางสายพันธุ์สามารถก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้

HPV คือเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง

HPV สามารถทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูกและช่องปาก นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศด้วย

สายพันธุ์ของเชื้อไวรัส HPV

สายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก พบได้ถึง 70% ของผู้ป่วย ส่วนหูดหงอนไก่มักเกิดจากสายพันธุ์ 6 และ 11

วิธีการติดต่อของเชื้อไวรัส HPV

HPV ติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรง ส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ การฉีดวัคซีน HPV เป็นวิธีป้องกันที่สำคัญ

ผลกระทบจากการติดเชื้อไวรัส HPV

การติดเชื้อ HPV ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกาย นอกจากมะเร็งปากมดลูก ยังทำให้เกิดมะเร็งในบริเวณอื่นๆ ได้ ผลกระทบนี้ส่งผลต่อทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV ในผู้หญิง

เชื้อ HPV ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิดในผู้หญิง ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด และทวารหนัก นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดมะเร็งช่องปากและลำคอ

มะเร็งช่องคลอดเป็นมะเร็งที่พบมากรองจากมะเร็งปากมดลูก ร้อยละ 90 ของมะเร็งช่องคลอดมีสาเหตุมาจากเชื้อ HPV

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV ในผู้ชาย

ผู้ชายสามารถเป็นมะเร็งองคชาต ทวารหนัก และช่องปากจากเชื้อ HPV ได้ เชื้อนี้ยังทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศอีกด้วย

ข้อมูลจาก GLOBOCAN 2022 พบมะเร็งช่องคลอดประมาณ 662,301 รายต่อปีทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตประมาณ 348,874 รายต่อปี

ในประเทศไทย มีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกประมาณ 8,662 รายต่อปี คิดเป็น 9.3% ของมะเร็งในผู้หญิง มีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,576 รายต่อปี

ทุก 2 ชั่วโมง มีผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกหนึ่งราย การฉีดวัคซีน HPV จึงสำคัญมากในการป้องกันโรคมะเร็งและโรคที่เกี่ยวข้อง

อาการบ่งชี้ว่าอาจติดเชื้อไวรัส HPV

เชื้อไวรัส HPV เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ การติดเชื้อ HPV มักไม่แสดงอาการชัดเจน แต่มีสัญญาณเตือนบางอย่างที่ควรระวัง

  • มีหูดขึ้น (พบได้บ่อย) ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูน ตุ่มเรียบแบน หรือตุ่มสีชมพู บริเวณช่องคลอด ปากมดลูก อัณฑะ ทวารหนัก ขาหนีบ หรือขาอ่อน
  • มีอาการคันหรือแสบร้อนบริเวณที่ติดเชื้อ
  • มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีตกขาวมีกลิ่นเหม็น ปริมาณมากกว่าปกติ
  • ประจำเดือนมาผิดปกติ
  • ท่อทางเดินปัสสาวะอุดตัน (พบได้น้อย)

หากคุณพบอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที การตรวจและวินิจฉัยเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง การรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต

ความแตกต่างของวัคซีน HPV แต่ละชนิด

วัคซีน HPV มีทั้งหมด 3 ชนิดหลักในประเทศไทย ได้แก่ Cervarix, Gardasil และ Human Papillomavirus 9-Valent Vaccine หรือ วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ แต่ละชนิดมีความสามารถในการป้องกันโรคจาก HPV ที่แตกต่างกัน

วัคซีน Cervarix

วัคซีน HPV ชนิด Cervarix ป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ได้ สองสายพันธุ์นี้เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงถึง 70%

วัคซีน Gardasil

วัคซีน HPV ชนิด Gardasil ป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 เช่นกัน นอกจากนี้ ยังป้องกันสายพันธุ์ 6 และ 11 ได้ด้วย สายพันธุ์ 6 และ 11 เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ

วัคซีน Gardasil มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงถึง 70% เช่นเดียวกับ Cervarix

วัคซีน Human Papillomavirus 9-Valent Vaccine

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ ป้องกันเชื้อ HPV ได้ถึง 9 สายพันธุ์ ได้แก่ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58

วัคซีนนี้ครอบคลุมการป้องกันโรคจาก HPV ได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพสูงกว่า 90%

วัคซีน HPV

ชนิดวัคซีน HPVสายพันธุ์ที่ป้องกันประสิทธิภาพ
Cervarix16, 1870%
Gardasil6, 11, 16, 1870%
Gardasil 96, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52, 5890%
บทความที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น  เกิด ใหม่ นักรบ พันธุ์ ระ ห่ํา 32

ข้อได้เปรียบของวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง มันช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ถึง 99% ซึ่งมากกว่าวัคซีน HPV ชนิด 2 และ 4 สายพันธุ์ที่มีอยู่ก่อนหน้า

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ยังสามารถป้องกันโรคได้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย มันช่วยลดความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมาก

ประสิทธิภาพของวัคซีน HPVชนิด 4 สายพันธุ์ชนิด 9 สายพันธุ์
ป้องกันมะเร็งปากมดลูก70%99%
ป้องกันหูดหงอนไก่90%99%

การฉีดวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ในเด็กอายุ 9-15 ปีให้ผลดีที่สุด สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงอายุอื่น

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ช่วยป้องกันโรคจากเชื้อ HPV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างดี การฉีดวัคซีนนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันโรค

วิธีการฉีดวัคซีน HPV

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปรแกรมการฉีดวัคซีนจะแตกต่างกันตามช่วงอายุของผู้รับ

โปรแกรมการฉีดวัคซีนตามช่วงอายุ

เด็กอายุ 9-14 ปี ควรฉีดวัคซีน HPV 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน วิธีนี้จะให้ประสิทธิภาพสูงสุด

ผู้ที่อายุ 15-45 ปี ต้องฉีดวัคซีน 3 เข็ม เข็มแรกคือวันที่เริ่มฉีด เข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน เข็มที่สามห่างจากเข็มที่สอง 4-6 เดือน

การฉีดวัคซีน HPV ในช่วงอายุ 9-ช่วงอายุที่ควรฉีดวัคซีน HPV ให้ประโยชน์สูงสุด ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าการฉีดในวัยผู้ใหญ่

วิธีฉีดวัคซีน HPV

อายุจำนวนเข็มระยะห่างของการฉีดแต่ละเข็ม
9-14 ปี2 เข็ม6-12 เดือน
15-45 ปี3 เข็ม
  1. เข็มแรก
  2. เข็มที่สอง: 1-2 เดือนหลังจากเข็มแรก
  3. เข็มที่สาม: 4-6 เดือนหลังจากเข็มที่สอง

ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน HPV

การฉีดวัคซีน HPV อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด บางคนอาจมีอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีไข้ ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน HPV มักหายไปเองและไม่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หากพบอาการผิดปกติ สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับผลข้างเคียงวัคซีน HPV อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน

  1. ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด
  2. ปวดศีรษะ
  3. ปวดกล้ามเนื้อ
  4. มีไข้

แม้อาการเหล่านี้ไม่รุนแรง แต่ควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม

อาการผลข้างเคียงความรุนแรงการจัดการ
ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีดเล็กน้อยหายไปเอง
ปวดศีรษะเล็กน้อยหายไปเอง
ปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อยหายไปเอง
มีไข้เล็กน้อยหายไปเอง

หากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน HPV มีแนวโน้มลดลง แต่ยังควรระมัดระวัง

ข้อควรระวังก่อนฉีดวัคซีน HPV

ก่อนฉีดวัคซีน HPV ต้องแจ้งแพทย์เรื่องประวัติแพ้ยาหรืออาหาร ควรบอกหากมีไข้หรือป่วย รวมถึงภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์จะประเมินว่าควรฉีดวัคซีนหรือไม่ สุขภาพของคุณสำคัญมาก

สิ่งที่ควรระวังก่อนฉีดวัคซีน HPV และ ข้อห้ามในการฉีดวัคซีน HPV มีดังนี้:

  • มีประวัติการแพ้ยาหรืออาหารบางชนิด
  • กำลังมีไข้หรือมีอาการป่วย
  • อยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน

การแจ้งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แพทย์ประเมินความพร้อมในการรับวัคซีนได้ แพทย์จะสามารถแนะนำการดูแลที่เหมาะสมสำหรับคุณ

วัคซีน HPV ช่วยป้องกันโรคได้นานแค่ไหน

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ให้ความคุ้มครองได้นาน 10 ปี หลังฉีดครบโปรแกรม ผู้ฉีดวัคซีนควรตรวจติดตามอาการสม่ำเสมอ อายุการใช้งานของวัคซีนอาจต่างกันในแต่ละคน

วัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 90% การฉีดเพิ่มหลังจากฉีดชนิดอื่นก็ปลอดภัย อาจเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันจาก 70% เป็น 90%

แม้วัคซีนจะป้องกันได้นาน แต่ควรตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

ประเภทของวัคซีน HPVประสิทธิภาพในการป้องกันโรค
วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ (Cervarix)ประมาณ 70% (มะเร็งปากมดลูก)
วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (Gardasil)มะเร็งปากมดลูกและหูดที่อวัยวะเพศ
วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9)ประมาณ 90% (มะเร็งปากมดลูกและหูด), ประมาณ 80% (มะเร็งทวารหนัก)

วัคซีน HPV ป้องกันโรคได้นาน 10 ปี หลังฉีดครบโปรแกรม วัคซีนชนิด 9 สายพันธุ์มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับชนิดอื่น

วัคซีน hpv สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อ HPV มาก่อน

วัคซีน HPV ยังคงมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อน แม้ประสิทธิภาพจะลดลงเล็กน้อย แต่ก็ช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ ประสิทธิภาพวัคซีน HPV สำหรับผู้ติดเชื้อ HPV มาก่อน ยังคงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

บทความที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น  แป้งฝุ่น: เลือกใช้แป้งฝุ่นที่เหมาะสมกับผิวคุณ

การฉีดวัคซีน HPV สำหรับผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อ HPV มีประโยชน์ แม้การป้องกันอาจไม่สมบูรณ์ แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูก วัคซีนยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ ได้อีกด้วย

  1. แม้ว่าผู้ที่เคยติดเชื้อ HPV มาก่อนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันของวัคซีนนั้นลดลงเล็กน้อย แต่การฉีดวัคซีน HPV ก็ยังคงให้ประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อซ้ำและลดความเสี่ยงต่อการพัฒนาเป็นมะเร็ง
  2. การฉีดวัคซีน HPV สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อ HPV มาก่อน สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ ได้

วัคซีน HPV ยังคงมีประโยชน์แม้เคยติดเชื้อมาก่อน มันช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ดี และลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกคน

วัคซีน HPV

กรณีเคยฉีดวัคซีน HPV ชนิดอื่นมาก่อน

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนชนิดอื่น สถิติระบุว่า 75% ของผู้ที่เคยฉีดวัคซีนอื่นตอบรับดีต่อวัคซีนชนิดนี้ มันมีประสิทธิภาพสูงกว่าและช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้อย่างชัดเจน

ด้านความปลอดภัย อาการข้างเคียงไม่แตกต่างจากประชากรทั่วไป อาการที่พบบ่อยคือเจ็บ บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด แต่ไม่รุนแรง วัคซีนนี้จึงปลอดภัยสำหรับผู้ที่เคยฉีดวัคซีน HPV มาแล้ว

สรุปคือ วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เคยฉีดวัคซีนอื่น มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัย โดยมีข้อมูลสถิติรองรับ

FAQ

วัคซีน HPV ป้องกันโรคอะไรบ้าง?

วัคซีน HPV ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูกและโรคอื่นๆ เช่น หูดหงอนไก่และมะเร็งทวารหนัก วัคซีนนี้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิด ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรได้รับวัคซีนนี้

HPV คืออะไร?

HPV เป็นไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ บางสายพันธุ์ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งช่องปาก HPV ยังทำให้เกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ

การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงได้

โรคที่เกิดจากการติดเชื้อ HPV มีอะไรบ้าง?

HPV ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก ช่องคลอด ทวารหนัก และช่องปาก ในผู้ชาย HPV อาจทำให้เกิดมะเร็งองคชาตและทวารหนัก รวมถึงหูดที่อวัยวะเพศ

อาการของการติดเชื้อ HPV เป็นอย่างไร?

อาการที่พบบ่อยคือมีหูดขึ้น ลักษณะเป็นตุ่มนูนหรือตุ่มเรียบแบน อาจมีอาการคันหรือแสบร้อน บางคนมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์

อาการอื่นๆ ได้แก่ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ประจำเดือนผิดปกติ หรือท่อทางเดินปัสสาวะอุดตัน

วัคซีน HPV มีกี่ชนิด และแตกต่างกันอย่างไร?

มีวัคซีน HPV 3 ชนิด ได้แก่ Cervarix, Gardasil และ Human Papillomavirus 9-Valent Vaccine แต่ละชนิดป้องกันสายพันธุ์ต่างกัน

วัคซีน 9 สายพันธุ์ครอบคลุมการป้องกันได้มากที่สุด ป้องกันได้ถึง 9 สายพันธุ์ของ HPV

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์มีประสิทธิภาพอย่างไร?

วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์มีประสิทธิภาพสูงถึง 99% ป้องกันโรคจาก HPV ได้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย

วิธีการฉีดวัคซีน HPV เป็นอย่างไร?

แนะนำให้ฉีด 3 เข็ม เข็มแรกในวันที่ต้องการฉีด เข็มที่สองห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน เข็มที่สามห่างจากเข็มที่สองประมาณ 6 เดือน

ช่วงอายุที่แนะนำคือ 9-26 ปี ทั้งเพศหญิงและเพศชาย โดยเฉพาะช่วง 9-15 ปีจะได้ประโยชน์มากที่สุด

มีผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีน HPV อย่างไรบ้าง?

อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือไข้ อาการเหล่านี้มักหายไปเอง

หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

มีข้อควรระวังก่อนฉีดวัคซีน HPV อย่างไร?

ควรแจ้งแพทย์หากมีประวัติแพ้ยาหรืออาหาร กำลังมีไข้ หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์จะพิจารณาว่าควรฉีดวัคซีนหรือไม่

วัคซีน HPV ช่วยป้องกันโรคได้นานแค่ไหน?

วัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ให้ความคุ้มครองได้นานถึง 10 ปี หลังฉีดครบตามโปรแกรม ควรตรวจติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอ

วัคซีน HPV มีประโยชน์ต่อผู้ที่เคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่?

แม้ประสิทธิภาพอาจลดลงเล็กน้อย วัคซีนยังมีประโยชน์สำหรับผู้เคยติดเชื้อ HPV มาก่อน ช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง

สารบัญ

บทความล่าสุด