กรุงธนบุรี ในสมัยอยุธยาถึงต้นรัตรโกสินทร์. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ ภาควิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร. สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท. บรรยายทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย วันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๓.
2 ได้มีพระภิกษุลังกา ชื่อ พระสาสนวงศ์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและต้นโพธิ์ลังกามาถวายใน พ.ศ. สภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์. บุรีรัมย์ ภูมิหลังประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม. ศักดิ์ชัย พจน์นันท์วาณิชย์ และ ทนงศักดิ์ หาญวงษ์. การอนุรักษ์โบราณสถานปราสาทหนองหงส์. สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา กรมศิลปากร.
ประวัติศาสตร์เมืองลพบุรี
ยกกองทัพติดตามลงมา พวกมอญได้อพยพครอบครัวหนีเข้ามาอยู่ในขอบขัณฑสีมาเมืองไทยเป็นอันมาก พระองค์จึงดำรัสสั่งลงมาทางกรุงธนบุรี ให้พระยายมราชแขก09 คุมกองทัพออกไปตั้งกักด่านที่ตำบลท่าดินแดง แขวงเมืองท่าขนุน ในลำน้ำไทรโยค คอยรับครัวมอญที่จะเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ ให้พระยากำแหงวิชิต คุมกำลัง 2,000 นาย ตั้งอยู่ที่บ้านระแหง คอยรับครัวมอญที่จะเข้ามาทางด่านเมืองตาก แล้วพระองค์เสด็จยกทัพหลวง ออกจากบ้านระแหง เมื่อวันศุกร์แรมห้าค่ำ เดือนอ้าย ปีมะเมีย พ.ศ.2317 ตามกองทัพเจ้าพระยาสุรสีห์และพระยายมราชขึ้นไปยังเมืองเชียงใหม่. เจ้าตากทรงทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทรงเห็นว่าพม่าจะต้องปราบปรามมอญอยู่นาน เป็นโอกาสที่ไทยจะชิงตีเมืองเชียงใหม่ ตัดกำลังพม่าเสียทางหนึ่งก่อน จึงมีรับสั่งให้เกณฑ์ให้เกณฑ์กำลังหัวเมืองฝ่ายเหนือซึ่งมีจำนวน 20,000 นาย ไปรวมพลอยู่ที่บ้านระแหงแขวงเมืองตาก แล้วเกณฑ์คนในกรุงธนบุรี และหัวเมืองชั้นในเป็นกองทัพหลวงจำนวน 15,000 นาย เจ้าตากเสด็จโดยกระบวนเรือ ออกจากพระนคร เมื่อวันอังคาร แรม eleven ค่ำ เดือน 12 ปี มะเมีย พ.ศ.2317 ขึ้นไปทางเมืองกำแพงเพชร แล้วให้ประชุมทัพที่บ้านระแหง ตรงที่ตั้งเมืองตากปัจจุบัน. ฝ่ายไทย พระองค์เจ้าจุ้ยลูกเธอ ตั้งอยู่ที่เมืองราชบุรี เมื่อทราบว่าพม่าตั้งค่ายอยู่ที่บางแก้ว ด้วยกำลังพล 3,000 คน จึงยกกำลังไปตั้งที่ตำบลโคกกระต่าย ในทุ่งธรรมเสน ห่างจากค่ายพม่าประมาณ 80 เส้น แล้วให้หลวงมหาเทพ คุมกองหน้า ไปตั้งค่ายโอบพม่าทางด้านตะวันตก และให้เจ้ารามลักษณ์หลานเธอ (บุญมี) นำกำลังยกไปตั้งค่าย โอบทางด้านตะวันออก แล้วบอกความเข้ามายังกรุงธนบุรี. จึงมีรับสั่งให้พระยายมราช (ทองด้วง) คุมกองทัพอยู่จัดการเมืองเชียงใหม่ให้เรียบร้อย ส่วนพระองค์ได้เสด็จยกกองทัพหลวงลงมายังเมืองตาก เมื่อวันศุกร์ แรมสี่ค่ำ เดือนยี่ ฝ่ายพระยายมราช (ทองด้วง) ก็ให้พวกข้าราชการออกไปเที่ยวเกลี้ยกล่อมผู้คนพลเมืองที่หนีภัยไปหลบซ่อนตามป่าเขา ให้กลับคืนถิ่นที่อยู่ตามเดิม ครั้งนั้นเจ้าฟ้าเมืองน่านได้เข้ามาสวามิภักดิ์ เป็นขอบขัณฑสีมาอีกเมืองหนึ่ง จึงได้เมืองเชียงใหม่ เมืองลำพูน เมืองนครลำปาง เมืองน่าน และเมืองแพร่ กลับมาอยู่ในพระราชอาณาเขตไทย นับตั้งแต่ปีมะเมีย พ.ศ.2317 เป็นต้นมาตราบจนปัจจุบัน. เสด็จยกทัพหลวงกลับลงมาจากเชียงใหม่ถึงเมืองตาก เมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้นสองค่ำ เดือนสาม ประจวบเหมาะกับกองทัพพม่าที่ยกตามครัวมอญมาทางด่านแม่ละเมา ใกล้จะยกมาถึงเมืองตาก จึงมีรับสั่งให้หลวงมหาเทพ10 กับจมื่นไวยวรนาถ11 คุมกำลัง 2,000 นาย ยกไปตีพม่า และได้ปะทะกันในวันนั้น พอตกค่ำฝ่ายพม่าก็ถอยหนีไป จึงมีรับสั่งให้ยกกำลังสวนทางที่พม่าถอยหนีไปนั้น ให้พระยากำแหงวิชิต รีบยกกำลังออกไปก้าวสกัดตัดหลังกองทัพพม่า เพื่อตัดรอนกำลังส่วนนี้ให้หมดสภาพไป. โปสุพลา โปมะยุง่วน เห็นฝ่ายไทยตั้งค่ายล้อมเมืองดังกล่าว จึงคุมกำลังออกมาตั้งค่ายประชิด แล้วยกกำลังเข้าปล้นค่ายไทยหลายครั้ง แต่ถูกฝ่ายไทยตีโต้ถอยกลับเข้าเมืองไปทุกครั้ง สุดท้ายจึงได้แต่รักษาเมืองมั่นไว้ ขณะนั้นพวกชาวเมืองเชียงใหม่ ที่หลบหนีพม่าไปซุ่มอยู่ในป่าเขา เห็นฝ่ายไทยไปตั้งค่ายล้อมพม่าอยู่ ก็พากันออกมาเข้ากับกองทัพไทยเป็นอันมาก พวกที่อยู่ในเมือง ก็พากันหลบหนีเล็ดลอดออกมาเข้ากับฝ่ายไทยอยู่ไม่ขาดสาย จนได้ครอบครัวชาวเชียงใหม่ ที่มาเข้ากับกองทัพไทยจำนวนกว่า 5,000 คน.
ปราบปรามพวกมอญเสร็จสิ้น เป็นแต่ยังรอกองทัพพม่าที่เข้ามาตามครัวมอญอยู่เมืองเมาะตะมะ จึงได้ขึ้นไปเข้าเฝ้าพระเจ้ามังระที่เมืองร่างกุ้ง พระเจ้ามังระเห็นว่ามีกองทัพใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมาะตะมะแล้ว จึงมอบการที่จะตีเมืองไทย ให้อะแซหวุ่นกี้คิดอ่านดำเนินการต่อไป. ได้ออกบิณฑบาตพร้อมพระภิกษุ ทองด้วง เป็นประจำ เพราะรับราชการเป็นมหาดเล็กทำงานด้วยกันมาหลายปี ทั้งสองมีความรักใคร่กลมเกลียวกันมาก ได้อุปสมบทพร้อมกัน. ก็มีรับสั่งให้กองทัพไทยยกติดตามไปจนสุดพระราชอาณาเขต แล้วก็ให้กองทัพกลับคืนพระนคร พระราชทานบำเหน็จรางวัลแก่แม่ทัพนายกองผู้ใหญ่ผู้น้อย ตามสมควรแก่ความชอบ ที่มีชัยชนะพม่าครั้งนี้โดยทั่วกัน. คณะศึกษานิเทศก์ สำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดจันทบุรี .
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
1 แห่งราชอาณาจักรอังวะ ทราบข่าวมีคนไทยตั้งตนเป็นใหญ่อีกครั้ง (โดยเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุต เจ้าเมืองเวียงจันทน์ ที่มีใจฝักใฝ่พม่า) จึงได้มีพระบรมราชโองการให้ “แมงกี้มารหญ้า” เจ้าเมืองทวาย ยกทัพมาปราบปรามผู้ที่กำเริบตั้งตนเป็นใหญ่ให้ราบคาบ. ทรงมีพระราชดำริว่า ถ้าล้อมค่ายบางแก้วไว้ ให้พม่าสิ้นเสบียงอาหาร ก็จะยอมแพ้ออกมาให้จับเป็นเชลยทั้งหมด จึงมีรับสั่งมิให้เข้าตีค่ายพม่า แต่ให้ล้อมไว้ให้มั่น แล้วให้พระยาเทพอรชุน กับ พระดำเกิงรณภพ คุมกองอาจารย์ และทนายเลือก รวม 745 นาย เป็นกองโจร ไปช่วยเจ้าพระยาอินทรอภัย ตีตัดกำลังข้าศึกที่เขาช่องพรานอีกกองหนึ่ง. ปะกันหวุ่นได้เตรียมการตั้งแต่ปีมะเส็ง พ.ศ.2316 โดยให้เกณฑ์มอญตามหัวเมืองที่ต่อแดนไทย 3,000 คน มอบภารกิจให้แพกิจาคุมกำลัง 500 คนมาทำทางที่จะยกกองทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ วางแผนตั้งยุ้งฉางไว้ตามเส้นทาง ตั้งแต่เชิงเขาบรรทัดด้านแดนพม่า มาจนถึงตำบลสามสบ ท่านดินแดงในแดนไทย.
ต่อมา เมื่อทราบเรื่องจากเชลยที่จับมาได้ว่า พม่าที่เขาชะงุ้มพยายามเล็ดลอด ขนเสบียงมาให้พม่าในค่ายบางแก้ว และได้บอกไปยังตะแคงมรหน่อง ขอกำลังมาเพิ่มเติมให้ทางค่ายเขาชะงุ้ม เพื่อจะได้ตีหักมาช่วยที่ค่ายบางแก้ว จึงมีรับสั่งให้เพิ่มเติมกองโจรให้มากขึ้น แล้วให้หลวงภักดีสงคราม นายกองนอกซึ่งอยู่ในกองเจ้าพระยาอินทรอภัย คุมกำลังกองนอก ลอบขึ้นไปทำลายหนองและบ่อน้ำ ในเส้นทางที่จะมาจากปากแพรกเสีย อย่าให้ข้าศึกเพิ่มกำลังเข้ามาได้. เสด็จถอยมาประทับอยู่ที่ค่ายโคกกระต่าย ด้วยเหมาะที่จะให้การสนับสนุนได้ทุกด้าน แล้วมีรับสั่งให้หลวงบำเรอภักดิ์17คุมกองกำลังทหารกองนอก 400 นาย เป็นกองโจรไปคอยตีสะกัด ไม่ให้พม่าที่เขาชะงุ้ม ออกลาดตระเวณหาอาหารและน้ำใช้ได้สะดวก. คอยอยู่ที่เมืองเมาะตะมะ เห็นกองทัพงุยอคงหวุ่นหายไปนาน จึงให้ตะแคงมรหน่อง ยกกำลัง 3,000 คน ตามเข้ามา เมื่อมาถึงปากแพรก ได้ทราบว่างุยอคงหวุ่นถูกฝ่ายไทยล้อมไว้ที่บางแก้ว จึงมอบให้มองจายิดยกกำลัง 2,000 นาย ลงมาช่วยงุยอคงหวุ่นที่บางแก้ว ส่วนตนเองยกกำลังลงมาตีค่าย พระยายมราชแขกที่หนองขาว ไม่สามารถเอาชนะฝ่ายไทยได้ จึงถอยกำลังไปตั้งอยู่ที่ปากแพรก. เสด็จไปทอดพระเนตรค่ายทหารไทย ที่ตั้งโอบทหารพม่าที่บางแก้ว เมื่อทรงพิจารณาภูมิประเทศแล้ว จึงมีรับสั่งให้ไปตั้งค่ายล้อมพม่าเพิ่มเติมอีกจนรอบ แล้วให้เจ้าพระยาอินทรอภัย14 ไปตั้งรักษาหนองน้ำที่เขาช่องพราน อันเป็นที่ข้าศึกอาศัยเลี้ยงช้างม้าพาหนะ และเป็นเส้นทางเดินลำเลียงเสบียงอาหารของข้าศึกแห่งหนึ่ง ให้พระยารามัญวงศ์ คุมกองมอญที่เข้ามาใหม่ ไปรักษาหนองน้ำที่เขาชะงุ้ม ซึ่งอยู่ในเส้นทางลำเลียงของข้าศึก ด้านเหนือขึ้นไป ระยะทางประมาณ a hundred เส้น. ทรงทราบก็ทรงพิโรธ และได้ทรงประหารชีวิตพระเทพโยธาด้วยพระหัตถ์13 พวกกองทัพทั้งปวงก็เกรงพระราชอาญา พากันรีบยกกำลังออกไปเมืองราชบุรีตามรับสั่ง.
ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ
มีรับสั่งให้ครัวมอญ ไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่ปากเกร็ด แขวงเมืองนนทบุรี และที่สามโคก แขวงเมืองปทุมธานี และสำรวจได้ชายฉกรรจ์ที่เข้ามาครั้งนั้น จำนวน 3,000 คนเศษ แล้วทรงตั้งพระยาบำเรอภักดิ์ครั้งกรุงเก่า มีเชื้อสายมอญให้เป็นพระยารามัญวงศ์ มียศเสมอจตุสดมภ์ เป็นหัวหน้าควบคุมกองมอญทั่วไป ส่วนพระยามอญและพวกหัวหน้า ก็ทรงตั้งให้มียศศักดิ์เป็นข้าราชการทุกคน. ก็ได้ยกทัพมาตีไทยที่เมืองสวรรคโลก เจ้าพระยาพิชัยราชาเจ้าเมืองสวรรคโลก (ซึ่งรั้งเมืองได้เพียงสามเดือน) จึงรีบแจ้งให้พระเจ้ากรุงธนบุรีเพื่อทรงทราบ ในขณะเดียวกันนั้นกองทัพไทยที่ตั้งทัพยันพม่าไว้ที่เมืองพิชัย พิษณุโลก และสุโขทัย ก็ได้รีบรุดยกทัพไปช่วยเมืองสวรรคโลก. จึงดำรัสให้มีตราสั่งเจ้าพระยาสุรสีห์ (บุญมา) หรือ เจ้าพระยาสุรสีหพิษณวาธิราช ให้ยกกองทัพเมืองเหนือ ขึ้นไปช่วยเมืองเชียงใหม่ ให้พระยาจักรี (ทองด้วง) คุมกองทัพกรุงธนบุรีหนุนขึ้นไป มอบภารกิจให้ตีพม่าถอยจากเชียงใหม่แล้ว ให้เลยตามขึ้นไปตีเอาเมืองเชียงแสน ไม่ให้พม่ามาอาศัยอีกต่อไป. เสด็จทรงมาไปที่ค่ายหลวงมหาเทพ ซึ่งตั้งล้อมพม่าอยู่ทางด้านตะวันตก มีรับสั่งให้จักกายเทวะมอญเข้าไปร้องบอกแก่พม่าในค่าย ให้ออกมายอมอ่อนน้อมแต่โดยดี งุยอคงหวุ่นจึงขอเจรจากับตละเกล็บหัวหน้ามอญที่มาอยู่กับฝ่ายไทย และได้เป็น(ว่า)ที่พระยาราม แต่ยังไม่เป็นผล.
ก็ยกกำลังออกตีกระหนาบ ได้รบพุ่งกันถึงขั้นตะลุมบอน ฝ่ายพม่าสู้ไม่ได้ก็แตกหนีไป. โปสุพลา แม่ทัพพม่ายกทัพไปช่วยเมืองเวียงจันทน์รบกับหลวงพระบาง ขากลับแวะตีเมืองพิชัย แต่ไม่สำเร็จ ไทยชนะ. พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี แผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาที่ ๔ (พระเจ้าตากสิน) จุลศักราช ๑๑๒๘-๑๑๔๔. ทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค), เจ้าพระยา.
ให้ปะกันหวุ่น ซึ่งได้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองเมาะตะมะ ตำแหน่งเทศาภิบาลมณฑลหัวเมืองมอญเป็นแม่ทัพ. Th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศอัมรินทร์, วันที่สืบค้น 16 มิถุนายน 2557. หลายครั้ง แต่ก็สามารถตีฝ่าไปได้ทุกครั้ง และสามารถรวบรวมไพร่พลตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ได้มากขึ้น. ประวัติวรรณคดีไทยสำหรับนักศึกษา.
- กล่าวถึงพระราชประวัติของพระองค์ไว้ว่า “บิดาเจิ้งเป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง ไปทำมาค้าขายอยู่ที่เสียมล่อก๊ก [ประเทศไทย] และเกิดเจิ้งเจา [สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี; สำเนียงปักกิ่ง] ที่นั่น เมื่อเจิ้งเจาเติบใหญ่ เป็นผู้มีความสามารถ ได้เข้ารับราชการอยู่ในเสียมล่อก๊ก เมื่อเจิ้งเจารบชนะพม่า ฯ แล้ว ราษฎรทั่วประเทศยกขึ้นเป็นเจ้าครองประเทศ…
- เบื้องตะวันตกเมืองสุโขไทยนี้ มีอรัญญิก พ่อขุนรามคำแห่งกระทำอวยทานแก่มหาเถร สังฆราช ปราชญ์เรียนจบปิฎกไตร…..
- โปมะยุง่วน จึงรวบรวมกำลัง ยกลงมาตีเมืองเชียงใหม่ เมื่อเดือน 10 ปีมะแม พ.ศ.2318.
- เมื่อต้นปีมะเส็ง พ.ศ.2316 พวกเมืองเวียงจันทน์ เกิดวิวาทกันเอง พวกหนึ่งจึงไปขอกำลังจากโปสุพลาที่เชียงใหม่ไปช่วย โปสุพลายกกำลังไประงับเหตุเสร็จสิ้นแล้ว ได้ค้างฤดูฝนอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ แล้วบังคับให้เจ้าบุญสารส่งบุตรธิดา กับเสนาบดีผู้ใหญ่ไปเป็นตัวจำนำอยู่ที่เมืองอังวะ เมื่อสิ้นฤดูฝน โปสุพลา ก็ยกกองทัพจากเมืองเวียงจันทน์ เลยถือโอกาสมาตีเมืองพิชัย เพื่อทดสอบกำลังของฝ่ายไทย หรือมิฉะนั้นก็เป็นการแก้มือที่แพ้ไทยไปครั้งก่อน.
- ทรงทราบข่าวว่าพม่ายกพลตามพวกมอญที่หนีเข้ามาในเขตไทย จึงโปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพมุ่งตรงไปยังราชบุรี โดยทรงบัญชาการทัพด้วยพระองค์เอง ทรงตั้งค่ายล้อมค่ายพม่าและลอบตีตัดทางลำเลียงเสบียงอาหาร โดยได้กำลังสนับสนุนจากพระยายมราช ในที่สุดพม่าจึงต้องยอมแพ้ ชัยชนะในครั้งนี้ส่งผลให้ผู้คนที่หลบซ่อนตามที่ต่าง ๆ เข้ามาสวามิภักดิ์เป็นจำนวนมาก เนื่องจากหมดความกลัวเกรงพม่า นับเป็นสงครามแบบจิตวิทยาโดยแท้.
- ก็ยกกำลังออกตีกระหนาบ ได้รบพุ่งกันถึงขั้นตะลุมบอน ฝ่ายพม่าสู้ไม่ได้ก็แตกหนีไป.
จึงมีรับสั่งให้รีบเกณฑ์กองทัพในกรุงธนบุรี ให้พระองค์เจ้าจุ้ยลูกเธอ08 กับพระยาธิเบศร์บดีจางวางมหาดเล็ก นำกำลังพล 3,000 นาย ออกไปรักษาเมืองราชบุรี แล้วให้เจ้ารามลักษณ์หลานเธอ นำกำลังพล 1,000 นายยกขึ้นไปหนุน และให้มีตราขึ้นไปยังกองทัพหัวเมืองเหนือ ให้ยกลงมาด้วย แล้วมีรับสั่งให้เรือเร็ว ขึ้นไปเร่งกองทัพกรุงธนบุรีที่กำลังเดินทางกลับจากเมืองเหนือ ให้รีบเดินทางกลับมาโดยเร็ว เนื่องจากยังไม่รู้ว่า กองทัพพม่าจะยกกำลังเข้ามามากน้อยเพียงใด. เมื่อต้นปีมะเส็ง พ.ศ.2316 พวกเมืองเวียงจันทน์ เกิดวิวาทกันเอง พวกหนึ่งจึงไปขอกำลังจากโปสุพลาที่เชียงใหม่ไปช่วย โปสุพลายกกำลังไประงับเหตุเสร็จสิ้นแล้ว ได้ค้างฤดูฝนอยู่ที่เมืองเวียงจันทน์ แล้วบังคับให้เจ้าบุญสารส่งบุตรธิดา กับเสนาบดีผู้ใหญ่ไปเป็นตัวจำนำอยู่ที่เมืองอังวะ เมื่อสิ้นฤดูฝน โปสุพลา ก็ยกกองทัพจากเมืองเวียงจันทน์ เลยถือโอกาสมาตีเมืองพิชัย เพื่อทดสอบกำลังของฝ่ายไทย หรือมิฉะนั้นก็เป็นการแก้มือที่แพ้ไทยไปครั้งก่อน. กล่าวถึงพระราชประวัติของพระองค์ไว้ว่า “บิดาเจิ้งเป็นชาวมณฑลกวางตุ้ง ไปทำมาค้าขายอยู่ที่เสียมล่อก๊ก [ประเทศไทย] และเกิดเจิ้งเจา [สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี; สำเนียงปักกิ่ง] ที่นั่น เมื่อเจิ้งเจาเติบใหญ่ เป็นผู้มีความสามารถ ได้เข้ารับราชการอยู่ในเสียมล่อก๊ก เมื่อเจิ้งเจารบชนะพม่า ฯ แล้ว ราษฎรทั่วประเทศยกขึ้นเป็นเจ้าครองประเทศ… การบรรยาย “ธนบุรีในวัฏจักรการเปลี่ยนแปลง” ของ รศ.สุเนตร ชุตินธรานนท์, ที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินทร ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม พ.ศ.2561.
เบื้องตะวันตกเมืองสุโขไทยนี้ มีอรัญญิก พ่อขุนรามคำแห่งกระทำอวยทานแก่มหาเถร สังฆราช ปราชญ์เรียนจบปิฎกไตร….. ประวัติศาสตร์ไทยยุคก่อนประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ช่วงต้น การเข้ามาอยู่อาศัย แนวคิดถิ่นกำเนิดชนชาติไท บ้านเชียง ~2500 ปีก่อน พ.ศ. เบื้องหัวนอนเมืองสุโขไทนี้ มีกุฎีพิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดภงส์ มีป่าลาง มีป่าม่วงป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขะพุงผี…..
พระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช. Th.wikipedia.org/wiki/พระราชประวัติก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีในอภินิหารบรรพบุรุษ, วันที่สืบค้น 9 มิถุนายน 2557. อุตมสิงหจอจัวกราบทูลว่า จะขอถือน้ำ (พิพัฒน์สัตยา) ทำราชการกับไทยต่อไปจนชีวิตจะหาไม่ จึงมีรับสั่งให้อุตมสิงหจอจัว ออกไปพูดเกลี้ยกล่อมให้พวกพม่าออกมาอ่อนน้อม พวกพม่าในค่ายก็ขอปรึกษากันก่อน. นับเป็นกฤษดาภินิหารอันบดบังมิได้ของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล ทำให้ไทยเป็นชาติอยู่ได้จวบจนปัจจุบัน สงครามกับพม่าทั้งเก้าครั้งมีดังนี้. ตลอดรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ทรงทำสงครามกับพม่ารวมเก้าครั้ง ซึ่งทรงได้รับชัยชนะทุกครั้ง. กรรณิการ์ สุธีรัตนาภิรมย์ .