มัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซั่มแวร์ เข้ารหัสและบล็อกไฟล์ข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ ผู้โจมตีเรียกร้องค่าไถ่เพื่อปลดล็อคและกู้คืนข้อมูล การจ่ายเงินมักผ่านระบบที่ยากตรวจสอบ เช่น Bitcoin หรือ Paysafecard
แม้จ่ายค่าไถ่แล้ว ก็ไม่รับประกันว่าจะได้คีย์ปลดล็อค แรนซั่มแวร์เป็นอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบกว้าง มันขัดขวางธุรกิจและทำให้สูญเสียข้อมูลสำคัญ การโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
การป้องกันและรับมือการโจมตีด้วยแรนซั่มแวร์สำคัญสำหรับผู้ใช้และผู้ดูแลระบบ ต้องมีมาตรการป้องกันรอบด้านเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์เรียกค่าไถ่ ช่วยลดการสูญเสียข้อมูลสำคัญที่กระทบธุรกิจ
ความหมายของ Ransomware คืออะไร
Ransomware เป็นมัลแวร์ที่เข้ารหัสข้อมูลและเรียกค่าไถ่ มันล็อคไฟล์ทุกชนิดบนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ และจำกัดการเข้าถึง ผู้โจมตีเรียกค่าไถ่ผ่านระบบที่ยากตรวจสอบ เช่น Bitcoin หรือ Paysafecard
แม้จ่ายค่าไถ่แล้ว ก็ไม่รับประกันว่าจะได้คีย์ปลดล็อค การจ่ายเงินไม่ได้หมายความว่าจะได้ข้อมูลคืน
Ransomware เป็นมัลแวร์ที่เข้ารหัสข้อมูลและเรียกค่าไถ่
Ransomware ล็อคไฟล์ทุกชนิดบนคอมพิวเตอร์ จากนั้นเรียกค่าไถ่เพื่อปลดล็อค ค่าไถ่มักอยู่ระหว่าง 150-500 เหรียญสหรัฐ ผู้โจมตีรับชำระผ่านสกุลเงินดิจิทัลที่ยากตรวจสอบ เช่น Bitcoin
กระบวนการทำงานของ Ransomware
Ransomware เข้ารหัสไฟล์จนเข้าถึงไม่ได้ ผู้โจมตีเรียกร้องค่าไถ่เพื่อแลกกับคีย์ปลดล็อค คีย์นี้ใช้ถอดรหัสและกู้คืนข้อมูล
อย่างไรก็ตาม การจ่ายค่าไถ่ไม่รับประกันว่าจะได้คีย์คืน เหยื่ออาจสูญเสียทั้งเงินและข้อมูล
ผลกระทบจากการโจมตี Ransomware
Ransomware สร้างความเสียหายรุนแรงต่อธุรกิจ มันหยุดระบบและขัดขวางการทำงานปกติ การสูญเสียข้อมูลสำคัญทำให้เกิดผลกระทบมหาศาล ทั้งโอกาสทางธุรกิจและความน่าเชื่อถือของลูกค้าลดลง
Ransomware ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ปี 2021 การโจมตีด้วย Ransomware เพิ่มขึ้น 151% จากปีก่อน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ Ransomware หยุดระบบและขัดขวางการทำงานปกติ
องค์กรสูญเสียรายได้และความน่าเชื่อถือจากลูกค้าอย่างมาก ความเสียหายนี้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อการดำเนินธุรกิจ
การสูญเสียข้อมูลสำคัญขององค์กร
Ransomware ทำให้องค์กรสูญเสียข้อมูลสำคัญ ซึ่งเป็นความเสียหายที่ประเมินค่าได้ยาก ข้อมูลเหล่านี้มีคุณค่ามหาศาลต่อธุรกิจ
การสูญเสียข้อมูลส่งผลกระทบกว้างไกล ทั้งโอกาสทางธุรกิจและความน่าเชื่อถือของลูกค้าลดลง องค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น
ปี 2021 มีการโจมตีด้วย Ransomware มากมายในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น สถานพยาบาล สถาบันการเงิน และหน่วยงานรัฐ ความเสียหายกระจายในวงกว้างส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความปลอดภัยของประชาชน
ransomware คือภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Ransomware เป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งในโลกไซเบอร์ การโจมตีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ค่าไถ่ที่เรียกร้องมีมูลค่าสูงมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและข้อมูลสำคัญขององค์กร
แฮกเกอร์มองว่าการโจมตีองค์กรชั้นนำเป็นการสร้างชื่อเสียง ทำให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มความตระหนักและเตรียมพร้อมป้องกันมากขึ้น
รายงาน Sonicwall Cyber Threat Report พบว่าการโจมตีด้วย Ransomware เพิ่มขึ้น 151% ในปี 2021 มีผู้ถูกโจมตี 307.7 ล้านรายทั่วโลก ถือเป็นความท้าทายในการป้องกันภัยคุกคามที่รุนแรงขึ้น
Ransomware สร้างความสูญเสียใหญ่หลวงต่อธุรกิจและข้อมูลสำคัญขององค์กร เหตุการณ์ WannaCry ในปี 2017 แพร่ระบาดไปทั่วโลก บางองค์กรต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อกู้ข้อมูลคืน
เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความสำคัญของการป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามนี้ การเตรียมตัวที่ดีช่วยลดความเสี่ยงจาก Ransomware ได้
กรณีศึกษาการโจมตี Ransomware ที่โด่งดัง
ปี 2017 เป็นช่วงที่ Ransomware ระบาดอย่างหนัก โดยเฉพาะ WannaCry เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามที่มีต่อองค์กรและคนทั่วโลก
WannaCry ระบาดทั่วโลกในปี 2017
WannaCry แพร่ผ่านช่องโหว่ของ Microsoft Windows อย่างรวดเร็ว มันกระจายจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องในเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่
หลายหน่วยงานต้องหยุดดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและองค์กรมากมาย
WannaCry สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก มันเตือนให้ทุกคนเห็นความสำคัญของการป้องกันข้อมูลจากภัย Ransomware
- การโจมตี Ransomware มีอัตราการเติบโตควบคู่กับการเพิ่มขึ้นของ cryptocurrencies ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการรับ ‘ค่าไถ่’ จากเหยื่อ
- จำนวนเงินโดยเฉลี่ยที่ถูกเรียกร้องในการโจมตี Ransomware อยู่ระหว่าง $600 – $700
- การโจมตี Ransomware มีการระบาดมากที่สุดนับจากข้อมูลล่าสุด
- ประสิทธิภาพของโปรแกรม Ransomware Tools ที่สามารถสั่งซื้อได้ง่ายมาจากแฮกเกอร์ในตลาดมืด
การป้องกันและรับมือกับ Ransomware เป็นสิ่งจำเป็น ไม่เพียงสำหรับองค์กร แต่รวมถึงบุคคลทั่วไปด้วย
วิธีการแพร่ระบาดของ Ransomware
Ransomware แพร่ผ่านช่องทางที่ดูน่าเชื่อถือ เช่น เอกสารแนบอีเมลและโฆษณาบนเว็บ เมื่อผู้ใช้คลิกเปิดโดยไม่ระวัง Ransomware จะติดตั้งและเข้ารหัสไฟล์ในคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะส่งข้อความเรียกค่าไถ่จากผู้โจมตี
เอกสารแนบทางอีเมล
รายงานของ Cisco ปี 2021 พบว่าอีเมลหลอกลวงเป็นสาเหตุหลักของการติด Ransomware คิดเป็น 90% ของการเจาะระบบข้อมูลทั่วโลก มัลแวร์มักซ่อนอยู่ในเอกสารแนบหรือลิงก์ที่ดูน่าเชื่อถือ
เมื่อผู้ใช้เปิดเอกสารแนบหรือคลิกลิงก์ Ransomware จะติดตั้งในเครื่องทันที
โฆษณาบนเว็บไซต์
Ransomware ยังแพร่ผ่านการคลิกลิงก์หรือเปิดเอกสารในโฆษณาบนเว็บที่น่าสงสัย เช่น โฆษณาให้ดาวน์โหลดโปรแกรมฟรีหรือแอพที่น่าสนใจ แต่จริงๆ แล้วเป็นการแฝง Ransomware เข้ามาติดตั้ง
วิธีป้องกัน การเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ คือระวังการใช้งานอินเทอร์เน็ต อย่าคลิกเปิดสิ่งที่น่าสงสัย เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ cryptomalware และ โจรกรรมไซเบอร์
5 วิธีการป้องกันไม่ให้เป็นเหยื่อ Ransomware
การป้องกัน Ransomware สำคัญมากเพราะอาจสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อธุรกิจ พวกมันเข้ารหัสไฟล์และบิดพลิ้วข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ สร้างปัญหาหนัก
มาดูวิธีป้องกันสำคัญกัน:
ทำการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
สำรองข้อมูลเป็นประจำช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ ถ้าโดน cryptomalware โจมตี ก็กู้คืนข้อมูลได้ทันที
อัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นปัจจุบัน
อัปเดตซอฟต์แวร์สม่ำเสมอเพื่อปิดช่องโหว่ป้องกันการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ แฮกเกอร์มักใช้ช่องโหว่ซอฟต์แวร์โจมตี
ติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์
โปรแกรมป้องกันมัลแวร์ดีๆ ช่วยจับและป้องกันcryptomalware ที่แอบแฝง ป้องกันการบิดพลิ้วข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่ ได้
ทำตามวิธีนี้ช่วยลดเสี่ยงการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ และสูญเสียข้อมูลสำคัญ ติดตามข่าวความปลอดภัยไซเบอร์ด้วย
เตรียมพร้อมรับมือการโจมตีใหม่ๆ ของ cryptomalware อยู่เสมอ
แนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกัน Ransomware ในองค์กร
ภัย cryptomalware และโจรกรรมไซเบอร์ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน องค์กรต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดี การวางแผนระบบแบ็กอัพข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเป็นแนวทางสำคัญ
วางแผนและพัฒนาระบบแบ็กอัพข้อมูล
องค์กรควรสำรองข้อมูลสม่ำเสมอและพัฒนาระบบแบ็กอัพที่แข็งแรง วิธีนี้ช่วยป้องกันความเสียหายจากการโจมตีของ cryptomalware ที่ล็อกข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่
ใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยเว็บและอีเมล์
เครื่องมือรักษาความปลอดภัยสำหรับเว็บและอีเมล์มีประโยชน์มาก มันช่วยตรวจจับและป้องกันการแพร่ระบาดของ โจรกรรมไซเบอร์ ผ่านช่องทางเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อัปเดตแพทช์และซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์
การอัปเดตแพทช์และซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์เป็นสิ่งสำคัญ วิธีนี้ช่วยรักษาความปลอดภัยของระบบให้พร้อมใช้งานเสมอ นอกจากนี้ยังป้องกันการโจมตีจาก cryptomalware ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วได้
การจัดการ Network เพื่อป้องกัน Ransomware
การจัดการระบบเครือข่ายที่ดีช่วยป้องกัน Ransomware ได้ เทคโนโลยีป้องกันช่วยตรวจจับและหยุดการแพร่กระจายของมัลแวร์ สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเสียหายต่อองค์กรได้มาก
เปิดใช้งาน IPS และ Sandboxing บนอุปกรณ์ Firewall
IPS บน Firewall ช่วยตรวจจับการเข้าถึงระบบที่ผิดปกติ Sandboxing แยกการทำงานของแอปใหม่เพื่อป้องกัน Ransomware
เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยองค์กรรับมือภัยคุกคามได้ทันท่วงที ทำให้ระบบปลอดภัยมากขึ้น