มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือกำเนิดจาก “มหาธาตุวิทยาลัย” ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งขึ้นภายในวัดมหาธาตุฯ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๒ ก่อนที่จะพระราชทานนามใหม่ว่า “มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” เมื่อคราวทรงสถาปนาอาคารสังฆิกเสนาสน์ราชวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในปีพ.ศ. ๒๔๓๙โดยทรงตั้งพระทัยจะให้เป็นวิทยาลัยการศึกษาชั้นสูงของพระสงฆ์ แต่การดำเนินงานของวิทยาลัยได้เริ่มต้นอย่างจริงจังเมื่อพ.ศ. ๒๔๙๐โดยพระพิมลธรรม (ช้อย ฐานทตฺตเถร) และมีการดำเนินงานมาตามลำดับจนได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ตามความในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยพ.ศ. ๒๕๔๐อธิการบดีคนปัจจุบัน คือพระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต)ศ.ดร.
กรุงเทพฯ โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์, พ.ศ. ประกอบการนำเสนอเรื่อง ภิกษุณี วิชาพุทธศาสนาในประเท… ลงมาจี้ก็จะสั่งเผลอๆ ไปกลายเปนให้ไปทำลายพระนพีสีเสียโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่ได้คิดให้รอบคอบ…” ศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยบูรพา. รูปภาพธีมโดย luoman.
๖ พระพุทธศาสนาในไทย
พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ไทย. กรุงเทพฯ ; โรงพิมพ์ เอดิสัน. พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) พระพุทธศาสนาในอาเซีย.
- จะได้ปฏิบัติตามคลองพระบรมพุทโธวาทให้เปนที่เลื่อมไสยของพุทธศาสนิกชน…”
- พระราชธรรมนิเทศ, (ระแบบ ฐิตญาโณ).
- กรุงเทพฯ ธรรมสภา, ๒๕๔๐.
- ศาสนาและปรัชญา มหาวิทยาลัยบูรพา.
- ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในเอเซียอาคเนย์.
- ประกอบการนำเสนอเรื่อง ภิกษุณี วิชาพุทธศาสนาในประเท…
กรุงเทพฯ ธรรมสภา, ๒๕๔๐. จะได้ปฏิบัติตามคลองพระบรมพุทโธวาทให้เปนที่เลื่อมไสยของพุทธศาสนิกชน…” ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในเอเซียอาคเนย์.
จริยศาสตร์ ปี 3
พระราชธรรมนิเทศ, (ระแบบ ฐิตญาโณ). ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา. มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๓๖. “…พระสงฆ์ในมณฑลนั้นจะว่าดื้อก็ดื้อจะว่าง่ายก็ง่าย ถ้าหัวหน้าลงหรือนับถือแล้วก็เป็นการง่ายที่สุด ถ้าหัวหน้าไม่ลงแลนับถือแล้วก็เป็นการยากที่สุด คอยฟังเสียงของครูบาเท่านั้น ถ้าครูบาว่าอย่างไรแล้วก็แล้วกันไม่มีใครมีปากเสียง การที่จัดคณะนี้อาตมภาพก็ได้จัดสำเร็จทุกๆ เมือง พากันนิยมมาก ถ้าจะมีความเจริญหนังสือไม่พอแจกมีผู้ต้องการมาก ที่สั่งลงมาขอพระไตรปิฎกก็มี…” ๒.สมศักดิ์ บุญปู่, พระสงฆ์กับการศึกษาไทย, กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๒๕๔๕.
ขับเคลื่อนโดย Blogger. สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พ.ศ. ๒๔๙๘-๒๕๒๑), “เชียงขวาง”, “เซ่า”, “ไทย”. อานุภาพภาวนา “พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ. ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ. สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.”
ศาสนาพุทธในประเทศไทย
ปัจจุบันวัดคณะสงฆ์ธรรมยุตกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ three,832 วัด เมื่อปีพ.ศ. 2557 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำรวจมีพระภิกษุธรรมยุติกนิกาย ประมาณ 33,187 รูป สามเณร 6,804 รูป คณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายได้ชื่อว่า เป็นคณะสงฆ์ที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย สันโดษ เรียบง่าย ส่วนสำคัญเนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าราชกาลที่ 4 ทรงวางระเบียบแบบแผนแนวทางวัตรปฎิบัติเอาไว้ตั้งแต่เมื่อครั้งพระองค์ยังทรงผนวชอยู่นั่นเอง.. การบริหารคณะสงฆ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้ใช้ พุทธศักราช (พ.ศ.) แทนรัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) ตั้งแต่ วันที่ ๑ เมษายน ๒๔๕๖ ดังนั้นวันที่ ๑ เมษายน จึงเป็นวันขึ้นปีใหม่ ในครั้งนั้น ได้มีเพลงมีเนื้อร้องว่า “วันที่หนึ่ง เมษายน ตั้งต้นปีใหม่…” “…คนในสุโขทัยนี้มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยทั้งชาวแม่ ชาวเจ้า ท่วยปัวท่วยนาง ลูกเจ้าลูกขุนทั้งสิ้นทั้งหลาย ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ฝูงท่วยมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงศีลเมื่อพรรษาทุกคน เมื่อออกพรรษากรานกฐินเดือนหนึ่งจึงแล้วเมื่อกรานกฐินมีพนมเบี้ย พนมหมาก มีพนมดอกไม้ มีหมอนนั่งหมอนนอน บริพารกฐินโอยทานแลญิบล้าน ไปสวดญัตติกฐินถึงอรัญญิกพู้น…” ๑.ธีรวัส บำเพ็ญบุญบารมี, สาระธรรมจากพระพุทธศาสนา, ผู้อำนวยการหลักสูตรโครงการอนุรักษ์คัมภีร์, หลักสูตรมหาบัณฑิต สาขาพุทธศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เมื่อทรงเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎได้ผนวช ๒๗ พรรษาแล้วได้ลาสิกขาขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมายุ ๕๗ พรรษา ใน พ.ศ.